ตอนนี้ Project ผมก็ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เพราะ Software และ hardware มีความพร้อมที่จะใช้งาน ยกเว้นตัว Hardware ที่อาจจะยังไม่พร้อมแบบเต็ม 100 เท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาก้ยังใช้ดครงไม้เป็นหลัก สาเหตุก็เพราะง่ายในการสร้าง ปรับแต่งง่าย วัสดุราคาถูก แต่ข้อเสียคือ ไม่ทน ดดนน้ำ โดนกระแทก ก็หักง่าย

พอจะเอามาส่งจริง ผมก็ต้องเปลี่ยนจากไม้เป้นอะคริลิค เพื่อทำให้ดูดีขึ้น แข้งแรงขึ้น (ถ้าส่งดครงไม้ได้ ผมคงส่งไปนานแล้ว ประหยัดดี)

และนี่ก้เป็นครั้งที่สองอีกที่ผมต้องมาทำงานกับอะคริลิค ครั้งแรกคืองาน Power Supply ของ PC ที่บ้าน ทำเอง ตอนนั้นใช้แบบใส

สำหรับงาน Project คราวนี้ ผมใช้สีขาวขุ่น ดูเรียบง่ายดี

อุปกรณ์ที่ซื้อมาก็หาข้อมูลมาจาก Google ซื้อผิดซื้อถูกมาตามนี้

- แผ่นอะคริลิคสีบาว ความหนา 3 mm และ 2mm ขนาดเท่ากันคือ 30cm X 30cm
แบบ 3mm ราคาแผ่นละ 90 บาท ส่วน 2mm รุ้สึกว่าราคาจะถูกกว่าเยอะ

- มีดตัดอะคริลิค เห็นมีสองแบบเลยซื้อมา 2 แบบเลย ราคาตามรูป ทดลองใช้งานแล้ว แบบแพงจะหนักกว่า ออกแรงกดง่ายกว่า ทั้งสองแบบมีใบมีดสำรองให้อย่างละ 1 ใบ

- น้ำยาเชื่อมพลาสติกอะคริลิค ขวดละ 30 บาท กับพู่กันอีก 1 อัน แต่พูู่กันแบบนี้ใช้แล้วสีจะตกใส่แผ่นอะคริลิค หลังๆมาผมเลยใช้คอตตอนบัด (สำลีปั่นหู) มาใช้แทน

การประกอบ ผมใช้การประกบแผ่นอะคริลิคเข้าด้วยกัน แล้วใช้คอตตอนบัด ที่จุ่มน้ำยาเชื่อมพลาสติกอะคริลิค มาถูๆแถวๆ รอยต่อ ปรากฎว่าแห้งเร็วมาก แข็งแรงใช้ได้ หลังๆมาใช้กับซับน้ำยาแล้วกดบนร่องที่ต้องการให้น้ำยามันไหลลงไปตามร่องเอง ทำไปสัก 2-3 รอบก็ใช้ได้ครับ (วิธีนี้มั่วเอง)

วิธีการตัดไม่ยาก ลองผิดลองถูกอยู่นานก็เจอจากที่นี่

http://www.youtube.com/watch?v=jCeHx-vvJ7k

และสุดท้ายก้สรุปวิธีตัดของตัวเอง
http://www.youtube.com/watch?v=NmVF3RvUMgA

การประกอบจริงมีดัดแปลงบางส่วนคือ จะเปลี่ยนตำแหน่งตัว Reader ให้ตั้งขึ้น งานนี้ต้องวัดดวงกันหน่อย ว่าจะใช้ได้เหมือนเดิมหรือเปล่า

ตอนนี้ประกอบยังไม่เสร้จทั้งหมด แต่จะกลับมาทำต่ออีกทีหลังปีใหม่ครับ

Project RFID ของผม ใช้ RFID Reader หลายๆตัว มาต่อพ่วงกัน แล้วใช้โปรแกรมควบคุมให้ Reader ทำงานทีละ 1 ตัว วนไปจนครบทุกตัว เป็นวิธีการเพิ่มระยะการอ่านและจำนวนในการอ่านครั้งเดียว ที่ อ. บอกมา

สำหรับการต่อใช้งานจริง ผมใช้ RFID Reader จำนวนทั้งหมด 5 ตัว ต่อเข้ากับ USB Hub 7 Port 1 ตัว ตอนแรกๆ ก็พอใช้งานได้ แต่หลังๆมา เริ่มเห็นปัญหาบางอย่าง เช่น Detect บ้าง ไม่ Detect บ้าง หรือบางทีก็ขึ้น error เกี่ยวกับ USB และที่หนักกว่าคือ การทำงานของโปรแกรมรวนๆ

ช่วงแรกๆ ก็คิดว่าปัญหาอาจเกิดมาจากตัว Reader เอง พอเปลี่ยนหมดไปแล้ว  ปัญหาก็ยังมีอยุ่ จนมาฉุดคิดได้ว่าน่าจะเป้นเรื่อง USB เพราะ ผมใช้ USB Hub ตัวเดียวต่อ Reader ถึง 5 ตัว อาจมีปัญหาเรื่องไฟหรือกระแสที่ไม่พอก็ได้ (แบบเดียวกับ HDD External ที่ไฟไม่พอ)

ตัว USB Hub ที่ผมซื้อเป็นแบบ 7 port ราคาถูกๆ 210 บาท ตอนที่ซื้อมาก้ไม่ได้คิดอะไรมาก เอามาลฃองใช้ก่อน แต่พอได้อ่านบทความจากเว็บนี้แล้ว ทำให้คิดได้ว่าตัว USB Hub ก็มีผลกับการใช้งานแน่ๆ

บ้าพลังกับ USB Hub 7 Port

พอมาดูกับของที่ตัวเองใช้เลยเจอว่า กระแสไฟอาจจะไม่พอก็ได้ เพราะตัว Adapter มันเล็ก แระแสก็น่าจะน้อย(ดูไปอย่างกับที่ชาร์จโนเกีย ราคา 99 บาท)

สำหรับตอนนี้เลยคิดว่าจะลองเปลี่ยน USB Hub ใหม่ เป้นของดีๆ แพงๆ ไปเลย อย่างน้อยก้น่าจะพอเชื่อใจได้ว่าปัญหาไม่ได้มาจาก USB Hub อีก

ส่วนเรื่องของ ว่าจะลองไปซื้อแถวๆ icon หรือแถวๆนั้น ดูก่อน ถ้าไม่มีก้จะลองไป IT City ดู

ได้ผลยังไง เดี๋ยวผมจะมาเล่าในตอนถัดๆไปครับ

ที่มา : http://spalinux.com/2008/06/indexing_mysql_database

ปัญหานี้เกิดจากตอนได้ทำงานกับข้อมูลจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ทั่วประเทศ การ Join กันแต่ละที ใช้เวลานานมาก

ปัญหาแรกคือ Maximum execution time of 30 seconds exceeded เกิดจากการประมวลผลคำสั่งที่นานเกินไป วิธีแก้คือใส่คำสั่งนี้ไว้บนสุดของหน้าเว็บ ส่วนวิธีที่ให้ไปแก้ php.ini ผมว่าใช้จริงกับ host ไม่ได้หรอกครับ เพราะเราไม่สามารถเข้าไปแก้ php.ini ใน host ได้จริงๆ

สำหรับการทำ index ในฐานข้อมูล ผมจับประเด็นได้แค่ว่า
- ทำ index กับฟิลด์ที่ใช้ค้นหาบ่อยๆ หรือใช้เป็นเงื่อนไขการ JOIN TABLE
ยกตัวอย่าง ฐานข้อมุลที่ผมได้ใช้งาน

เวลา join ตารางทั้งหมดมันจะช้ามาก หลังจากทำแล้วเร็วขึ้นมาก
สำหรับการทำจะใช้ phpmyadmin ก็ได้ หรือว่าโปรแกรม SQL Client อื่นๆ เช่น SQLyog ก็ได้ครับ

- ไม่จำเป็นเสมอไป หลังจากทำ index แล้วจะเร็วขึ้น ขึ้นอยู่กับการออกแบบฐานข้อมูลและคำสั่งที่ใช้ค้นหาด้วย

เรื่องนี้ผมเห็นด้วยครับ สำหรับงานบางงานผมไม่ได้เป้นคนออกแบบฐานข้อมูล แต่เป้นคนใช้ฐานข้อมูลก็จำเป้นต้องหาวิธีของตัวเอง เพื่อให้การทำงานเร้วและสะดวกที่สุด

เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆ ตอนนี้ ก็พอเข้าใจเรื่องการทำ Index มานิดหน่อยแล้วครับ

Breadcumbs ก้คือ ตัวนำทางหรือ Navigator ของเว็บ เวลาเราเข้าไปหาข้อมุลลึกๆในเว็บ ตัวนี้ก็จะช่วยบอกได้ว่าเราเข้าไปดูในหมวดหมู่ย่อย ตรงไหนบ้าง ผมคิดว่ามันสะวดกับการค้นหาข้อมุลของคนที่เข้าเว็บไซต์

ตัวอย่าง

จากรูป จะเห็นว่าบทความนี้ อยุ่ในหมวดหมู่ถึง สองที่ ซึ่งก็คือ Categories และ Section ใน Joomla 1.5 นั่นเอง

ชื่อ : Breadcrumbs Plus
ประเภท : Module
Joomla : 1.5 Only
License : GPLv2 or later Non-Commercial ใช้งานได้ฟรี
Download : extension.joomla.com

การตั้งค่า

เป็นปัญหาของเว็บ www.know2pro.com ที่เรื้อรังมานาน นั่นคือ การ Search เข้าใจว่าปัญหานี้มีมานานมากแล้ว แต่ผมเพิ่งมารุ้ตัวทีหลังว่าระบบการ search ในเว็บซึ่งเป้ยระบบ Defauls Search ของ Joomla มันมีปัญหาคือ Link ของผลการค้นหามันเพี้ยน ทำให้กดลิ้งค์ไปแล้ว ก้ไม่เจออะไรเลย

ปัญหานี้ คิดอยู่นาน และก็ได้ไแเดียจากเว็บที่เคยทำว่าระบบ Search ถ้ามันยุุ่งยากมากนัก ก้ใช้ของ Google ซะเลย และระบบที่ว่าก็คือ Google Custom Search

Google Custom Search ก็คือ Google ปกติที่เราใช้งาน แต่จะเน้นไปเว็บใดเว้บหนึ่ง เช่น ผมจะใช้ Google Custom Search มาแทนระบบ Search เดิม ผมก้ต้องตั้งค่าให้มัน search เฉพาะเว็บ know2pro.com เท่านั้น

สำหรับการทำใน Joomla ผมลอง 2-3 วิธี สรุปได้ว่าวิธีนี้ง่ายสุด ขั้นตอนคือ
1. ติดตั้ง Component ชื่อ googleSearch (Download)
2. ติดตั้ง Module ชื่อ googleSearch (Download)

หลังติดตั้งเสร็จแล้ว ให้เข้าไปที่ Component >> googleSearch
การตั้งค่า หลักๆแล้ว ผมจะตั้งตามนี้
ปรับความกว้างของหน้าผลการค้นหาเป็น 600
ปุ่มก็ใช้ชื่อ search
ที่สำคัญคือ search domain แก้เป็น know2pro.com เพราะผมจะให้ค้นหาเฉพาะเว็บนี้เท่านั้น
ส่วนเรื่องภาษา ผมก็ปรับเป็น Thai ให้หมดครับ

เลื่อลงมาอีกหน่อย จะเป้นการตั้งค่าตัว Module

ผลจากการตั้งค่า ก็ได้ตามรูปด้านบน
ส่วนวิธีคือ
ปรับความกว้างช่อง search เป็น 35
search button postion เลือกเป็น right
ที่เหลือก็ใช้ค่าเดิม

ทดสอบผลการ Search

เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

สัปดาห์ที่ผ่านมามีงานใหญ่ที่ต้องเร่งทำ เจอปัญหาและข้อสงสัยต่างๆ ในการเขียน php มากมาย
การแก้ไขส่วนมากก็ได้จากเว็บ Thaicreate เป็นส่วนใหญ่

PHP explode() แยกข้อความให้อยู่ในรูปแบบของ array โดยใช้เครื่องหมายแยก
http://www.thaicreate.com/php/php-explode.html

ข้อcode php ตัดตัวอักษร แบบนี้อ่ะค่ะ ข้อมูลตัวอย่างแรก คือตัดเอาเฉพาะตัวที่อยู่หลังจุดอ่ะค่ะ
http://www.thaicreate.com/php/forum/040113.html

การเรียกใช้ mysql_fetch_array หรือ mysql_fetch_assoc มากกว่า 1 ครั้ง
http://dexterian.exteen.com/20100602/mysql-fetch-array-mysql-fetch-assoc-1

การหาส่วนต่างของวันที่ใน MySQL
http://dexterian.exteen.com/20090810/mysql

config jpgraph ให้แสดงภาษาไทย
http://dexterian.exteen.com/20090925/config-jpgraph

ขอแนะนำ Module สำหรับแสดง RSS Feed ที่มี Effect สวยๆ และใช้งานได้ฟรีตัวนี้ครับ Module ตัวนี้มีชื่อว่าPGT RssScroller เป็น Module ใช้แสดง RSS Feed จาก URL ต่างๆ ได้ถึง 10 เว็บ มี Effect ในการเลื่อน Feed 6 แบบ (ผมใช้แบบ Smooth scroll)

ดาวน์โหลด PGT RssScroller (Download)

การตั้งค่าที่ผมใช้

ต่อเนื่องจาก ตอนที่ 4 เรื่องระบบการ Search พอดีว่าผมสังเกตไปเจอผลการค้นหาจากเว็บของตัวเอง ด้วยความที่ชอบตั้งชื่อเวอร์ๆ ยาวๆ ทำให้เวลา bot ของ search engine มาเก็บ มันก็เลยได้ผลมาแบบนี้

ก็คือ ชื่อ title โดนชื่อเว็บกินไปเกือบทั้งหมด ทำให้ชื่อบทความจริงๆ มันไม่แสดงออกมา
ผมเลยคิดว่าจะสลับเอาชื่อบทความมาไว้ข้างหน้าแทน แล้วเอาชื่อเว้บไปไว้ข้างหลัง

ชื่อบทความ – ชื่อเว็บ

สำหรับ Plugin ที่ใช้ได้ ก็มี 2 ตัว คือ
1. Website Name (Download)
2. Title Manager (Download) ฟังก์ชั่นเยอะกว่าตัวแรก

สำหรับผมจะใช้ตัวแรกครับ

หลังติดตั้งเสร็จก็ไปที่ Plugin >> System – Website name plugin
การตั้งค่าก้มีนิดหน่อยครับ คือ เลือกว่าจะให้ชื่อเว็บ อยุ่หน้า หรือ หลัง
และเลือกสัญลักษณ์ที่ใช้เป้นตัวคั่นระหว่างชื่อบทความ และชื่อเว้บได้
 

เสร็จแล้ว ลอง Apply ดูผลกัน

ต่อไปก็จัดการให้ Searcg Engine มาเก็บหน้าเว็บใหม่ ก็เรียบร้อย

การนำเสนองานผ่านหน้าจอ ไม่ว่าจะเป้นการสอน การเสนอผลงาน การประชุม และอื่นๆอีกมากมาย ผมเองได้เห็นมาแล้วหลายๆรูปแบบ แต่หลักๆ ที่ได้เห็นคือ การสอนจากอาจารย์ บางท่านก็สอนได้ดีใช้ Powerpoint ขึ้นหัวข้อและพูดอธิบายตามหัวข้อไปเรื่อยๆ แต่หลายๆครั้งที่มีการโชว์ Coding หรือใช้งานโปรแกรมอื่นๆ กันสดๆ เล่นเอานักศึกษาหรือคนฟังมองกันไม่เห็นเลยว่ากดหรือว่าทำอะไรอยู่ ได้แต่นั่งจินตนาการไปต่างๆนานา ผลคือ ไม่เข้าใจ มีผลทั้งคนฟังคนพูดครับ

เอาเป้นว่าขอแนะนำเลยละกัน สำหรับโปรแกรมช่วยการนำเสนองานที่ใช้ไม่ยากจนเกินเรียนรู้ มีประโยชน์มาก ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมก๋ช่วยให้การนำเสนอดีขึ้นมากมาย

Zoomit
homepage : http://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/bb897434

โปรแกรมใช้ Zoom ไปตาม Cursor บนหน้าจอ ใช้ได้ดีกับการเน้นบางตำแหน่งบนจอ
http://youtu.be/g78mIYZGkqc

PointerStick
homepage : http://www.softwareok.com/?seite=Freeware/PointerStick
โปรแกรมเปลี่ยน Cursor ให้กลายเป็นไม้่เอาไว้ใช้จิ้มที่หน้าจอ เหมาะสำหรับการเน้นทั้งหน้าจอ ปรับขนาดและรูปแบบได้

SlideMate
Download : http://www.softpedia.com/get/Others/Home-Education/MarkPen.shtml
โปรแกรมเสริม ที่รวมเครื่องมือวาดเขียนต่างๆ สำหรับงานนำเสนอ
MouseShade
Homepage : http://www.fxc.btinternet.co.uk/software.htm
โปรแกรมทำ Spot เฉพาะจุด ใช้เน้นกับจุดที่ต้องการจริงๆ

หลังจากผันตัวเองมาเป็น Web Programmer และต้องใช้ PHP + Mysql เป้นหลัก นอกจากจะใช้ phpmyadmin เป็นตัวจัดการฐานข้อมูลแล้ว การใช้โปรแกรมก้น่าจะช่วยเรื่องการจัดการ DB และเขียน SQL Query ได้ดียิ่งขึ้น

เท่าที่เคยใช้มาก็มีตายรายชื่อดังนี้

ToadforMySQL (Freeware)
รุ้จักจากการไปอบรม Oracle ใช้งานได้ง่ายดี แต่เหมือนจะหน่วงๆ ตอนทำงานไปหน่อย(คงคิดไปเอง)

SQL Front (Freeware)
ของฟรี ใช้ง่าย โดยเฉพาะการ Export หรือ Import ข้อมูล แต่เหมือนการ Query จะทำได้แค่หน้าต่างเดียว

HeidiSQL (Freeware)
การ Query ทำได้หลาย Tab แต่การ Import และ Export ข้อมุลยังยากสำหรับผมอยู่เลย

SQLyog (Shareware)
ของเสียเงิน มีดีตรงการ Connect เพราะ host ที่ผมใช้ มันให้เข้าฐานข้อมูลได้จาก phpmyadmin เท่านั้น โปรแกรมอื่นๆจะใช้การ Connect แบบนี้ไม่ได้ แต่โปรแกรมนี้ทำได้ ก็เลยใช่งนมามาตลอด

Navicat (Shareware)
โปรแกรมดีๆ ใช้งานได้เหมือน SQlyog ตอนนี้ก้ยังลังเลอยู่ว่าจะใช้ตัวไหนดี

DBeaver (Freeware)
โปรแกรมล่าสุดที่เพิ่งรู้จัก  โปรแกรมโหลดช้า และการ Query ก้มีปัญหาอยุ่พอสมควร