Slider[Style1]

Style2

Style3[OneLeft]

Style3[OneRight]

Style4

Style5[ImagesOnly]

Style6

[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual

[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual

เผลอแป๊บเดียว Joomla ก็ Update ไปจนถึง 1.5.15 แล้วครับ แต่ที่ลงในเครื่องผมยังเป็น 1.5.11 อยู่เลย
วันนี้เลยจะมาแนะนำวิธีการ Upgrade Joomla แบบ Manual แบบง่ายๆครับ
1. ก่อนอื่นถ้ายังไม่รู้ว่า Joomla ที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชั่นอะไรก็ให้เข้าไปที่หน้า Administrator แล้วสังเกตที่มุมขวาบนครับ

[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual
2. จากนั้นก็เข้าไปที่เว็บของ Joomla เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ Upgrade
http://joomlacode.org/gf/project/joomla/frs/?action=FrsReleaseBrowse&frs_package_id=4947

3. ให้หาตัว Updrade ที่ตรงกับเวอร์ชั่นของเรา ในที่นี้คือ 1.5.11 Upgrade ไป 1.5.15
เลือกเป็น Stable Package นะครับ
[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual

4. ไฟล์ที่โหลดมาจะได้เป็น tar.gz
[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual

5. จัดการ Extract File ออกมาก็จะได้ไฟล์มากมายประมาณนี้
[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual

6. จากนั้นก็ให้ copy ไฟล์ทั้งหมด ไปวางทับในโฟลเดอร์ Joomla ที่ติดตั้งไว้แล้ว เช่น ถ้าใน appserv ก็อยู่ใน c:appservwwwjoomla (ชื่อโฟลเดอร์ขึ้นอยู่กับตอนติดตั้งว่าคุณใช้ชื่ออะไร) เลือกเป็น Replace เพื่อให้มันทับกันนะครับ

7. เสร็จแล้วก็ลองเข้าหน้า Administrator อีกรอบครับ  Upgrade เรียบร้อย
[Joomla] อัพเกรด Joomla ง่ายๆแบบ Manual
**การอัพเกรดด้วยวิธีนี้เป็นแบบพื้นฐานสุดๆครับ วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก เท่าที่ลองดู joomla หลังจาก Upgrade แล้วก็ยังใช้งานได้ตามปกติครับ

ผลการใช้งาน Winrar และ 7Zip ว่าด้วยการใช้งานทั่วไป

เนื่องจากกระแสลิขสิทธิ์ค่อนข้างแรง เลยมีการยกเรื่องของ OpenSource software และ Freeware ขึ้นมามากมาย และมีโปรแกรมหลายๆประเภทที่ได้ลองแล้ง คิดว่าใช้ทดแทนโปรแกรมเถื่อนที่มีในเครื่องได้
แต่เดี๋ยวก่อนครับ ผมไม่ได้มาบอกว่าของฟรีหรือของเถื่อนดีกว่า เรื่องนี้ต้องอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน
เอาเป้นว่าวันนี้ผมมาเล่าเรื่องการใช้ Software ของผมละกัน

ผลการใช้งาน Winrar และ 7Zip ว่าด้วยการใช้งานทั่วไป ผลการใช้งาน Winrar และ 7Zip ว่าด้วยการใช้งานทั่วไป

ผลการใช้งาน Winrar และ 7Zip ว่าด้วยการใช้งานทั่วไป (เน้นว่าใช้งานทั่วๆไป)
การใช้งาน
- ใช้แตกไฟล์ (Extract File) เป็นส่วนมาก มีทุกขนาดและทุก part เช่น ไฟล์เอกสารไม่กี่ 100k จนถึงไฟล์ 20 part ขนาดรวมเกือบๆ 4G
- ใช้บีบอัดไฟล์ เช่น ส่งไฟล์ให้เพื่อน ใช้เก็บไฟล์บางไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว และบีบอัดไฟล์อัพโหลดขึ้นอินเตอร์เน็ต

แค่นี้แหละครับ การใช้งานของผม คิดว่าหลายๆคนก็คงเป้นเหมือนผม

ผลการใช้งานเปรียบเทียบความแตกต่าง 2 ตัว
- ความเร็วในการแตกไฟล์ ทั้ง 2 ตัวทำได้ใกล้เคียงกัน ยกเว้นว่าถ้าเป็นไฟล์ใหญ่ๆ 7Zip จะทำให้เครื่องผมช้าขึ้นมาทันที
- การบีบอัด Winrar บีบอัดได้เร็วกว่าเห็นๆ แถมไม่ทำให้เครื่องหน่วงด้วย ถ้าใช้ 7Zip ก็ควรปรับการบีบอัดให้เป็นแบบ Fastest เพราะถึงจะใช้ High ไปขนาดของไฟล์ที่บีบอัดก้จะเท่ากัน(ลองมาแล้ว)
- เรื่องการแตกไฟล์ ถ้าเป้น Winrar หากมีไฟล์ใดไฟล์หนึ่งเสีย(สมมุติว่ามีหลาย part) winrar ก็จะขึ้นหน้าต่างเตือนทันทีที่เจอและหยุดการแตกไฟล์ทันที แต่ 7Zip จะแตกไฟล์อย่างสบายใจไปจนครบ และขึ้นหน้าต่างเตือนทีหลัง ส่วนไฟล์ที่แตกไฟแล้วก็ใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง (แน่นอนว่ามันไม่สมบูรณ์)
- นามสกุลของไฟล์ที่บีบอัดแบบแบ่งหลายๆ part เช่น แบ่งไฟล์ Game.exe ให้เป็น 5 part
Winrar จะได้ Game.part1.rar – Game.part5.rar
7Zip จะได้ Game.7z.001 – Game.7z.005
ประมาณนี้
- จุดเด่นของ 7zip คือ อัตราการบีบอัดสูงมาก ผมเคยบีบอัดไฟล์ ISO 700MB เพื่ออัพโหลดขึ้นเว็บ ปรากฏว่าบีบแล้วเหลือแค่ 370 MB .. เหลือแค่เนี๊ย(เลือกแบบ Fastest แล้ว)
- ส่วนไฟล์พวก Video Music MP3 ต่างๆลองแล้ว ทั้ง Winrar และ 7Zip ให้ผลไม่ต่างกันมาก
- ถ้าจะบีบอัดไฟล์เป้นหลายๆ part แล้วอัพโหลดขึ้นเว็บฝากไฟล์ ผมแนะนำ 7zip ครับ เพราะบีบได้เล็กกว่า(ในบางกรณี) แต่ไฟล์ที่อัพโหลดไปแล้วพอถูกดาวน์โหลด แทบจะไม่เจอ Error เลย สามารถแตกไฟล์ได้แบบสมบูรณ์ แต่ไฟล์ .rar จะมี error เกิดขึ้น เจอบ่อยๆก็คือ CRC32 โดยเฉพาะพวกไฟล์ใหญ่ๆและแบ่งออกเป็นหลายๆ part

สรุปง่ายๆ 7zip สามารถใช้ทดแทน Winrar ได้ครับ การใช้งานต่างๆไม่ต่างกันมาก ใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อยก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ ถึงจะบีบอัดช้าแต่ก็ได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กลงมาก

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

การติดตั้งก็ต้องมีแผ่น CentOS 4.7 Server ก่อนอาจจะเป็นไฟล์ ISO หรือแผ่น CD ก็ได้ครับ จากนั้นก็ไปที่โปรแกรม VirtualBox แล้วไปตั้ง CD/DVD-ROM
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

เลือก Mount ว่าจะใช้แบบไหน แต่ผมแนะนำให้ใช้ ISO ครับ เพราะจะทำงานเร็วกว่า
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 บน VirtualBox (Credit : TORKUNG)
-
เมื่อเริ่มต้นการติดตั้ง CentOS จะมีการติดตั้งที่เป็นแบบ graphic mode และ text mode ให้เลือกแบบ Graphic กด Enter ครับ 

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

- ระบบจะถามว่าจะทำการตรวจสอบไฟล์ที่ใช้ในการติดตั้งหรือไม่ (Setup File) ถ้ากด OK ระบบจะทำการตรวจสอบไฟล์ที่ใช้ติดตั้งทั้งหมดก่อนเริ่มทำการติดตั้ง ถ้าไม่ต้องการให้เลือก Skip ระบบจะทำการติดตั้งโดยไม่ตรวจสอบไฟล์ที่ใช้ติดตั้ง ในตัวอย่างนี้เราใช้ ISO ดังนั้นให้กด Skip ข้ามไปได้เลย
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

- ในส่วนนี้จะเป็นรายละเอียดและคำอธิบายของการติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS ให้กด Next เพื่อทำการติดตั้ง

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- ระบบจะให้เลือกภาษาในการติดตั้ง ตามปกติจะเลือก English จากนั้นกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นระบบจะให้เลือกรูปแบบภาษาของ Keyboard ที่ใช้ในระบบ ให้ใช้ค่าDefault ที่ให้มาคือ U.S Englishจากนั้นกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นระบบจะให้ทำการสร้าง แบ่ง และจัดการ Partition โดยมีให้เลือกคือแบบ Automatically partition เป็นแบบที่ระบบจะทำการสร้าง partition ให้แบบอัตโนมัติ ส่วนแบบ Manually partition จะเป็นการสร้าง แบ่ง และจัดการ partition โดยผู้ใช้งานเอง (ในตัวอย่างนี้จะเลือกแบบ Manually partition) จากนั้นกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างถามว่าจะให้ลบข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่เดิมหรือไม่ ให้ตอบ Yes
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- ในหน้าต่างนี้เป็นการจัดการ Partition จะเห็นว่ามีพื้นที่ว่าง(Free) ขนาด 3584 MB หรือ 3.5 GB นั่นเอง
ระบบ Linux จะมี Directories ต่างๆที่ใช้งานในระบบคือ (ใน Linux จะเรียกว่า Directory แต่ใน Windows เรียก Folder)
/ = root directories เป็นไดเร็กทอรีเริ่มต้น(root) ซึ่งเป็นไดเรกทอรีที่อยู่ชั้นบนสุดของโครงสร้างลำดับชั้นของไดเร็กทอรี
/swap เป็นเหมือน visual memory ใช้ในกรณีที่ระบบมีหน่วยความจำน้อย โดยจะมีขนาดเท่ากับ 2 เท่าของหน่วยความจำ เช่น หน่วยความจำ 512MB พื้นที่ของ /swap จะมีค่าเท่ากับ 1024MB (ประมาณ1GB)

ในตัวอย่างนี้ให้เริ่มสร้าง / หรือ root directory ก่อน โดยคลิ๊กที่พื้นที่ว่างแล้วกด new
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- ในหน้า Add Partition ให้ตั้งค่าตามนี้
Mount point เลือก /
File System Type เลือก ext3
Size เลือก 3000 MB (CentOS 4.7 Server CD ใช้พื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 1.5 G แต่ก็เผื่อไว้ก่อน)
กด OK
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- ตอนนี้เหลือพื้นที่อีก 580 MB ก็ให้สร้างเป็น Swap (จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับ RAM ที่ตั้งให้ Virtual Machine และพื้นที่บน Harddisk ) วิธีการสร้างก็แบบเดียวกันคือกด Free แล้วกด new
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- การสร้าง swap ให้ตั้งค่าตามนี้
File System Type เลือก swap
Size เลือก 580 หรือพื้นที่ที่เหลืออยู่ทั้งหมด (สำหรับมือใหม่ใช้ Linux แบบผม แบ่งเป็น 2 partition ก็โอเคแล้วครับ)
กด ok
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- หลังจากที่สร้าง / และ swap เสร็จแล้วก็ให้กด Next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)

- ทำการกำหนดค่าของการ Boot ของระบบ ว่าจะให้ boot จากอุปกรณ์ตัวไหน ปกติค่า Default จะเลือก partition แรกให้อยู่แล้ว (hda1)
กด Next

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นระบบจะให้กำหนด IP Address ให้กับระบบโดยจะมีแบบ DHCP คือ รับ IP Address แบบอัตโนมัติจาก Switch แต่การทำ Server จะไม่นิยมใช้แบบ DHCP เนื่องจากเมื่อระบบร้องขอ IP จาก Switch จะทำให้ IP Address เปลี่ยนไป ส่วนแบบ manually เป็นการกำหนด IP Address โดยผู้ใช้งานเองโดยการกำหนด IP Address เอง เมื่อมีการติดต่อกับ Switch ทุกๆครั้ง IP Address จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง กด Next เพื่อทำการติตั้งขั้นตอนต่อไป
ในตัวอย่างนี้ ไม่ได้ใช้งานเกี่ยวข้องกับ Switch หรือ Router ก็ให้เลือกเป็น DHCP แล้วกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นระบบจะให้กำหนดค่า Firewall และ Security ให้กับระบบ
ในตัวอย่างนี้หลักๆจะใช้เพื่อทดลองคำสั่ง Linux และมีการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆด้วย ดังนั้นให้ปิด Firewall ให้หมด(ตั้งค่าตามภาพ)
กด Next

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จะมีหน้าต่างเตือน No Firewall ขึ้นมา ให้กด Proceed

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- ทำการเลือกภาษาที่ใช้งานในระบบโดยระบบจะมีค่า Default เป็นภาษา English และทำการเลือกภาษา Thai เพิ่มเข้าไปในระบบ กด Next

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นทำการเลือก Time zone ตามที่ต้องการ (ในที่นี้เลือก Asia/Bangkok)
ให้กับระบบ กด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นระบบจะให้ทำการกำหนดรหัสผ่าน (Password) และยืนยันรหัสผ่าน ของUser root
Password ต้องไม่น้อยกว่า 6 ตัวอักษร ตั้งเสร้จแล้วกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- จากนั้นทำการเลือก Packages ที่ต้องการใช้งานในระบบ
ในตัวอย่างนี้เราไม่ได้ใช้ Cent เพื่อทำ Server จริงๆ ดังนั้นให้เลือก Package Default ครับ
แต่ถ้าจะทำเป็น WebServer จริงๆ ให้ไปเลือก Package เพิ่มเติมจาก Customize..
เสร็จแล้วกด Next
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- กด Next เพื่อทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS ลงบน Hard disk หรือ partition ที่กำหนดไว้

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- รอให้ระบบทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS ให้เสร็จสมบรูณ์
วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
- เมื่อทำการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ระบบจะให้ทำการเริ่มใช้งานระบบที่ติดตั้งใหม่โดย กด Reboot

วิธีติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD บน VirtualBox (Step-By-Step)
ติดตั้ง CentOS 4.7 ServerCD เสร็จเรียบร้อยครับ
ในบทความต่อไปจะพูดถึงการใช้งาน Linux ครับ