จากข้อจำกัดของตัว RFID Reader ราคาถูก(เกือบ 2000) ที่ทำงานได้ครั้งละ 1 Tag เท่านั้น มาตอนนี้ผมก็ไเ้จัดการประกอบให้เป็น 3 ตัวได้แล้ว การทดสอบจริงๆ ก็เคยทำไปแล้วหลายครั้ง แต่คราวนี้จะเก็บภาพและวิดีโอไปด้วย เผื่อว่าจะได้กลับมาดูกันอีกรอบ

ตามขอบเขต Project คือ ระยะการอ่านมากกว่า 10 CM และอ่าน Tag ได้มากกว่่า 2 Tag ขึ้นไป

สำหรับเรื่องระยะไม่น่าเป็นปัญหา เพราะ RFID Reader ตัวหนึ่ง ก็อ่านได้ในระยะ 5 CM- 7 CM (ทดลองกับ Tag Card สีขาว)

ส่วนเรื่องการอ่าน Tag มากกว่า 2 ตัว ก็ทำได้แต่ขึ้นอยู่กับการจัดวางตำแหน่งและระยะการอ่านด้วย (ขนาดของ Tag ก็สำคัญ)

วิดีโอทดสอบการโปรแกรมที่เขียนด้วย VB6 กับ Reader สามตัว

วิดีโอการทดลองวาง Tag ในรูปแบบต่างๆ

ลองง่ายๆ กับ Tag 3 ตัว  สำหรับวัสดุผมทดลองแล้ว ผลคือ ใช้ติดกับวัสคุที่ไม่ใช่โลหะจะดีที่สุด
ดังนั้นในห้างดังๆ จะมีการติด Tag ไว้กับสินค้าบางอย่างที่ราคาสูงๆหรือ มีสิทธิ์จะโดนขโมยได้ง่าย
ที่เจอมาก็พวก แผ่น CD เครื่องสำอาง

ก่อนจะออกห้างได้ก็ต้องผ่านประตู หรือ บันไดเลื่อน ซึ่งทางออกเหล่านั้นจะมี Reader กำลังสูงวางดักไว้ ถ้าของที่เอาออกมาถูกขโมย ตัว Reader ก็จะอ่านค่าใน Tag ได้ ผลคือ โดนจับได้ว่าเป็นขโมย
ซึ่ง Tag ทุกตัว จะถูกเคลียรืค่าหรือทำลายหลังจากผ่านแคชเชียร์ครับ

สำหรับการทดลองกับวัสดุต่างๆ ผมก้ลองหาของใกล้ตัวๆมาใช้ ได้แก่

เริ่มจากเอาตัว TAG แบบ Sticker มาลองเช็คก่อน ผลคือ ระยะการอ่านสั้นมาก แทบจะเอาติดกับ Reader

ลองเอาไปติดกับวัสดุที่ทำมาจากพลาสติก ผลคือ อ่านได้ปกติ

แต่ถ้าลองเอาไปติดกับกล่องนมหรือเครื่องดื่มต่างๆ แบบในรูป โปรแกรมจะ Detect ไม่เจอเลย

ส่วนกล่อง CD อ่านได้ ลองติดทั้งใน และนอกกล่องแล้วก็ยังอ่านได้

ส่วนพวกกระป๋องต่างๆ ผลคือ อ่านไม่ได้เลย เข้าใจว่าโลหะดูดซับคลื่อนสนามแม่เหล็กที่ Reader ่สงออกมาจนหมด เลยกลายเป้นว่า Reader มองไม่เห็น Tag

โครงการนี้มีข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดครับ เป้นการใช้งาน RFID กับงานในฟาร์ม หลักๆ คือ การออกแบบเสาเพื่อใช้งานซึ่งน่าสนใจมาก รายละเอียดดูเพิ่มเติมจากที่นี่ครับ

http://www.ecti-thailand.org/emagazine/views/106

นอกจากนี้ผมก็ได้เก็บข้อมูลของเว็บเอาไว้เป็นไฟล์ Word เผื่อว่าเว็บมีปัญหาจะได้มีข้อมุลดูกันต่อไปครับ

http://www.mediafire.com/?35k9b8bh5ptlhh9

http://www.mediafire.com/?274cx7orjfl7zxr

หลังจากได้แนวทางการวางตัว Reader มาคร่าวๆ แล้ว ประกอบกับตอนนี้ก็มีเครื่องอยุ่ในมือ 3 ตัว ก็เลยตัดสินใจลองประกอบโครงไม้ง่ายๆ เพื่อทดลองการทำงานและปัญหาเรื่องสัญญาณต่างๆ

เริ่มจากวางแผนรูปร่างคร่าวๆ ในตอนนี้ยังใช้ RFID Reader รุ่น CL500 ไปก่อน ถ้าได้ตัวใหม่มา ค่อยเอามาเปลี่ยนกันอีกที

ออกแบบจากไม้อัด ได้เป็นหน้าตาแบบนี้
ตอนแรกก็ไม่คิดเรื่องที่จะแกะตัววงจรออกมาหรอกครับ แต่ลองดูแล้ว ค่อนข้างเกะกะ และทำให้ระยะการอ่านลดลง ก็เลยต้องแกะเครื่องออกมา คิดไว้ว่าถ้าทำจริงๆ คงใช้พวกแผ่นพลาสติกหรืออะคลิลิค (ใช้แผ่นโลหะไม่ได้ เดี๋ยวสัญญาณจะหายไปหมด)

ถ่ายรูปเสร็จ ก็ทำคลิปสั้นๆ เอาไว้ดูโครงสร้างคร่าวๆ

http://www.youtube.com/watch?v=y-2cSF6h05g

ส่วนตัว Tag ก็เอาไปติดกับกล่องสินค้า ซึ่งลองดูแล้วกล่องสบู่ มีขนาดที่พอดีกับตัว Tag สีขาว การติดผมก็ติดเอาไว้ข้างใน ให้ดูกลมกลืนและไม่เกะกะเวลาทดลองกับตัวเครื่อง Reader

สำหรับผลการทดลอง อ่าน Tag  จำนวน 3 ตัว ได้ผลพอใช้ เพราะ Reader รุ่น CL500 ที่วางแนวนอนด้านล่าง ค่อนข้างจะอ่านไม่ได้ ส่วนตัวซ้ายและขวาทำงานได้ดี

และปิดท้าย ด้วยการสร้าง Facebook Group สำหรับงาน RFID Project งานนี้ขึ้นมา (จริงๆ ทำไว้นานแล้ว) ความตั้งใจคือ เอาไว้ส่งความคืบหน้าล่าสุดของ Project ส่วนมากแล้วนะเน้นไปที่ตัว Hardware ซึ่งผมทำอยุ่ครับ
https://www.facebook.com/groups/244051805607244/

ทดลองใช้งานกันสักพักแล้วครับ น่าเสียดายที่ตัว Virtuemart ยังรองรับแค่ Joomla 1.5 การติดตั้งยังไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ แต่ตอนใช้นี่สิ งงกันไป

ด้วยหน้าตาที่ะรรมดาและเหมือนๆกันหมด ผมคิดว่าคงต้องมีการเปลี่ยนแปลง Template และหน้าตาอื่นๆ

ส่วนอื่นๆ ที่ว่าก็ตัว Pluginและ Module นั่นเองครับ และตอนนี้ก็ทดลองมาได้หลายๆ ตัวแล้ว

ส่วนสำคัญที่กำลังคิดคือ การแสดงสินค้าทำยังไงให้ดุดี และไม่รกรุงรังเกินไป

ตอนนี้ก็เล็งๆ Plugin และ Module พวกนี้อยู่

CatPro for VirtueMart

Product Slider for Virtuemart

Product Slideshow for Virtuemart

Multiple Display for Virtuemart

Products SlideShow for Virtuemart

Smart Slide Show for VirtueMart

เทคนิคการใช้งานทั่วไปอ่านได้จาก Killthewhat ครับ
แต่การเพิ่มเติมผมหามาได้สามเทคนิค คิดว่าคงได้ใช้

VirtueMart:การแก้ไขขนาดของรูปสินค้าในหน้าแสดงรายการสินค้า

ป้องกัน Spam ใน VirtueMart ด้วย SecurityImages

วิธีการเพิ่มรูปภาพสินค้าใน virtuemart ให้แสดงหลายๆรูป

ปัญหานี้มาจากการทำ Blog ของผมบน Blogger เนื่องจากว่าผมเขียน Blog ด้วย Windows Live Writer และบางครั้งมันก็ดื้อ ไม่ยอมอัพโหลดรูปเข้า Blogspot จะใช้ Flickr ก็หลายขั้นตอน เลยตัดสินใจว่าจะเอารูปมาฝากไว้ที่ Know2pro เนี่ยแหละ ลิ้งคืตรงไปเลย

แต่หายนะก็มาจากการทำลิ้งค์ตรง เพราะมีคน Copy บทความของผมไป เข้าใจว่าคง Copy ไปหมดไม่เว้นแม่แต่ URL ของรุป ดังนั้น รูปที่ผมมีเลยถูก Hotlink ไปตามเว้บต่างๆ ทั่วโลก ผลคือ ภาระ Bandwidth ของ Server Know2pro หนักมาก จนทะลัก กว่าผมจะรู้ตัวก็สายไปซะแล้ว เพราะ Account โดนระงับชั่วคราว

และวิธีการแก้ปัญหา จากต้นตอคือ เขียนคำสั่งป้องกันไว้ที่ไฟล์ .htaccess ซะเลย
วิธีการได้มาจากที่นี่ http://www.davidairey.com/stop-image-theft-hotlinking-htaccess/
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.htaccesstools.com/hotlink-protection/
http://altlab.com/htaccess_tutorial.html

สรุปคือ ให้ Copy โค้ดตรงนี้ไปใส่เพิ่มในไฟล์ .htaccess

RewriteEngine On
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^http://(.+.)?mysite.com/ [NC]
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^$
RewriteRule .*.(jpe?g|gif|bmp|png|jpg)$ /images/nohotlink.jpe [L]

ตรง /images/nohotlink.jpe  ผมเปลี่ยนเป็นรูปที่เอาเขียนข้อความประมาณว่า รูปนี้ถูกขโมยมาจาก Know2pro นะ

คราวนี้ใครมา Copy ผมไปอีก ก็จะเจอรูปแบบนั้นตลอด

ผลคือ Bandwidth ลดไปได้มากๆ เลย เยี่ยมจริงๆ วิธีนี้

ส่วนวิธีเพิ่มเติมของคนใช้ WordPress คือ ลง Plugin
แต่ผมใช้วิธีข้างบนซะก่อน วิธีนี้เลยไม่จำเป็นต้องใช้อีก

WP-CopyProtect [Protect your blog posts]

Protect your blog content from getting copied. A simple plug-in developed to stop the Copy cats

และ

Hotlink Protection

The WordPress Automatic Image Hotlink Protection plugin is a single step script designed to stop others from stealing your images.