Slider[Style1]

Style2

Style3[OneLeft]

Style3[OneRight]

Style4

Style5[ImagesOnly]

Style6

image

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เครื่องคอมพิวเตอร์ของผมผ่านการทำศึกกับไวรัสมาพอสมควร เดิมทีการจะติดไวรัสก็ติดจากอินเตอร์เน้ต แต่หลังจากที่มีหน่วยความจำชนิดใหม่ที่เรียกว่า “FlashDrive” การติดไวรัสคอมพิวเตอร์ก็มีมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ ผลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อกวนระบบไปจนถึงทำลายข้อมูลซึ่งผมก็เจอมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก ถ้าใครจำได้กับชื่อ “Brontok” ที่ติดกันไปทั่วบ้านทั่วเมื่อง ในตอนนั้นผมฝึกงานที่ร้านคอมพิวเตอร์และก็เจอไวรัสตัวนี้บ่อยมาก ตั้งแต่นั้นมาไวรัสก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนล่าสุดผมโดนไวรัส Win32/Vitro ที่เข้าไปทำลายไฟล์ exe กับ php ในเครื่องผม ดีที่ยังรอดมาได้
และเมื่อมีไวรัสแล้ว ผู้ใช้อย่างเราๆก็คงรู้จักกับ AntiVirus โปรแกรมที่ช่วยป้องกัน กำจัด ไวรัสต่างๆ ซึ่งก็เป็นไปตามความเข้าใจของเราทุกคน แต่แน่นอนหละว่าไม่ได้มีแค่เจ้าเดียวที่ทำ ถ้ายังนั้นของใครดีที่สุด วันนี้ผมไม่ได้มาบอกว่าของใครดีที่สุดหรอกนะครับ แค่จะมาบอกถึงประสบการณ์การใช้ที่ผ่านๆมาของผม เทานั้นเองครับ

1. Antivir Free Antivirus
Homepage : http://www.free-av.com/

image

เวอร์ชั่นฟรีของ Antivir ล่าสุดคือเวอร์ชั่น 9 ความสามารถโดยรวมคือการเป็น Antivirus มีความสามารถในการกำจัด ที่ดี จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือ การเตือนเมื่อพบเจอไฟล์ไวรัสหรือไฟล์แปลกปลอมอื่น ซึ่งจะมาทั้งภาพและเสียง
จากการใช้งานของผม สำหรับเวอร์ชั่นฟรี ถึงแม้การตรวจจับจะดี แต่มีความลำบากในการจัดการไวรัส นั่นก็เพราะการเตือน ถ้าหากยังไม่ได้ตั้งค่าเพิ่มเติม การเตือนก็จะมาแบบเดิมๆและต้องให้ผู้ใช้เป็นคนเลือกเองว่า จะจัดการกับไฟล์นั้นๆยังไง ถ้าเป็น User ทั่วๆไปคงคิดกันนาน กว่าจะเลือกได้ว่าจะทำอะไร อีกอย่างคือการอัพเดตที่มีหน้าต่างแนะนำให้เรา Upgrade เป็น Pro Version ซึ่งก็น่ารำคาญอยู่ไม่น้อย
ซึ่งจากความที่เป็น Antivirus เพียงอย่างเดียวทำให้ไม่สามารถป้องกันพวก trojan spyware ต่างๆได้ดีนัก แต่ก็ทำให้สามารถใช้งานกับเครื่องเก่าๆได้
ระยะเวลาการใช้งาน 1 ปีครับ แล้วจะหมดอายุ ที่เหลือก็แค่โหลดมาลงใหม่

image
 

2. AVG Free Antivirus
Homepage : http://free.avg.com/

image

ของฟรี และเป้นตัวหนึ่งที่น่าสนใจในระยะแรกครับ ผมเองใช้มาตั้งแต่เวอร์ชั่น 7 จนมาถึงเวอร์ชั่น 8.5 ในปัจจุบัน แต่ก่อนเป้นแค่ Antivirus แต่ตอนนี้มีการรวมความสามารถของ AntiSpyware ไปด้วย ทำให้การตรวบจับดีขึ้น แต่ก็หน่วงเครื่องเยอะเหมือนกัน การตรวจจับต่างๆถือว่าดีเลยครับ โดยเฉพาะกับพวกโปรแกรมเถื่อน Ketgen Patch ต่างๆ รับรองว่าหายเกลี้ยงแน่นอนหรือถ้ารอดก็ไม่สามารถรันได้
และล่าสุดด้วยความแรงแบบฉุดไม่อยู่หลังจากที่ทดลองลงเวอร์ชั่นล่าสุด 8.5 เข้าไป ก็พบว่า AVG ทำตัวมีปัญหากับ CPE17AntiAutorun จนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งหลังจากพอเช็คข่าวไปก็ได้รู้ว่า iTune โปรแกรมเพลงของทาง apple ก็โดน AVG เล่นเข้าด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นผมว่า AVG เป็น Antivirus ที่แรง ดุ โหด มากเกินไป ปัจจุบันผมลบออกไปแล้วครับ

image

3. Avast Home Edition
Homepage : http://www.avast.com/eng/download-avast-home.html

image
ตัวนี้ผมค่อนข้างจะประทับใจกับความสามารถในการทำงาน ถึงแม้จะมี AntiSpyware ที่เช็คได้ทั้งเว็บ email คล้ายกับ AVG แต่ก็ไม่ได้ดุซะจนลบไฟล์โปรแกรมในเครื่องออก เท่าที่ใช้มาการป้องกันไวรสก็คล้ายๆกับเจ้าอื่นๆ อาจมีบางครั้งที่เจอไวรัสที่ไม่เคยมีใครเจออย่าง Vitro ที่ผมเจอมาก็ได้ avast ล้างบางไปซะเรียบ
การอัพเดตไวรัสก็ง่ายๆ และทำแบบเงียบๆจะแจ้งอีกทีก็ต่อเมื่ออัพเดตเสร็จไปแล้ว สำหรับการใช้งานในเวอร์ชั่นฟรี ค่อนข้างจะสับสนครับ เพราะหน้าตาโปรแกรมและปุ่มต่างๆทำให้ผมต้องลองกดมั่วๆไปอยู่พักนึงกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ก้ใช่ว่าจะป้องกันได้ดีไปหมด ครั้งหนึ่งผผมเคยโดนไวรัส Satality ติดเข้าแบบไม่รู้ตัว ผลคือไวรัสไปปิดการทำงานของ avast ทั้งหมด เรียกยังไงก็ไม่ขึ้น สุดท้ายก็ต้องพึ่งตัวแก้เฉพาะจาก AVG

image

4. NOD32 Antivirus
Homepage : http://www.eset.com/image
ถึงจะไม่ใช้ของฟรีซะทีเดียว แต่ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับ user ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการใช้มาก เพราะมีระบบ scan และจัดการไวรัสโดยอัตโนมัติ แทบจะไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย แต่ด้วยความสามารถที่เรียกว่า Stealth Scan ทำให้การใช้ทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมาก หากใครเคยใช้ก็จะพบปัญหา CPU Usage ขึ้น 100% บ่อยๆ ปัญหาก็มาจากตัว ekrn ที่เป้นตัว scan ไฟล์ในเครื่อง ซึ่งจะทำงานแบบเงียบๆ
ปัญหาในการใช้งานตัวนี้น่าจะอยู่ที่การ update ฐานข้อมูลไวรัส ถึงแม้โปรแกรมจะให้ติดตั้งฟรี ไม่มี license แต่การอัพเดตปกติก้ต้องติดต่อจาก server ของ NOD32 โดยตรง แต่ด้วยความสามารถอย่างหนึ่งคือ การเก็บไฟล์อัพเดตไว้บนเครื่องได้ ทำให้มีการแจกจ่าย server และไฟล์ที่ใช้ในการอัพเดตมากมาย (หาได้จาก google) แค่ได้ URL ของ server มาสักที่ก็สามารถใช้งานได้ตลอดโดยที่ไม่ต้อง crack โปรแกรม

image

ปัจจุบัน ผมใช้ NOD32 ลงให้กับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใน Office เป็นส่วนใหญ่เพราะไม่ต้องจัดการอะไรมากแค่ตั้งค่าการอัพเดตให้อัตโนมัติ กำจัดไวรัสอัตโนมัติ แค่นี้ก็พอแล้วครับ อย่างในรูปก็เป็นการแจ้งว่าพบไวรัส และก็กำจัดไปเรียบร้อยแล้ว

 

image

การ scan ก็ใช้ได้ดี อย่างในรูปเป้นการจัดการไวรัสที่ติดจาก flashDrive

image
 image

สรุป
จริงๆแล้วอยากพูดถึงอีกตัวคือ Kaspersky แต่เพราะยังไม่เคยใช้งานจริงๆจัง เนื่องจากมีปัญหากับ Blacklist และการกินทรัพยากรที่มากเกินไป ทำให้ใช้งานได้ไม่บ่อย แต่จากที่เห้นมาก็กันไวรัสได้ดี ชนิดที่ว่า Antivirus ตัวอื่นๆหาไม่เจอกันเลย อย่าง kido แบบที่เห็นครับ

image
แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็ควรใช้งาน Ativirus ให้เหมาะสมกับเครื่องด้วยนะครับ และขอแนะนำว่าควรใช้แค่ตัวเดียวเท่านั้น เพราะจะมีปัญหา Antivirus ทะเลาะกันเอง จับผิดกันเอง และจะทำให้ระบบรวนไปเปล่าๆครับ

About Know2Play

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
«
Next
Newer Post
»
Previous
Older Post

No comments:

Post a Comment