ย้อนไปเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ในตอนที่ผมยังเรียนในระดับ ปวช. การจะทำเว็บหรือสร้างเว็บขึ้นมาสัก
ที่หนึ่ง ในตอนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากครับ ภาษาที่ใช้มีแค่ HTML และที่สำคัญคือต้องเขียนเอง โปรแกรมที่ใช้ก็คือ Notepad สำหรับ WebHosting ฟรีที่ใช้กันก็มี Geocities และ thai.net พื้นที่ก็ไม่มากครับ ประมาณ 5-10 MB
ต่อมาผมก็ค่อยๆพัฒนามาลองเล่นอะไรที่ใหม่ขึ้นก็คือ PHP-NUKE ในตอนนั้นหาลองยากมากครับ เพราะต้องขอลองกับ server ของทางมหาลัยอย่างเดียว ประกอบกับที่บ้านผมตอนนั้นยังไม่มี Internet (Modem 56 K) ก็อาศัยลองเล่นกับเพื่อน มั่วกันไปมั่วกันมาพักนึงก็เลิกเล่นไป ขอบอกเลยว่าตอนนั้นยังงกับระบบ php-nuke ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งจนถึงการใช้งาน
จนุถึงวันนี้ วันที่โอกาสของผมกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ตามหาความฝันของตัวเองอยู่พักใหญ่ผมก็มาเจอเรื่องถนัดเข้าจนได้ นั่นก็คือ การทำเว็บนั่นเอง ก่อนหน้านั้นผมก็ลองมาหลายครับ อย่างการเขียนโปรแกรม Application การเขียนเกม
การสร้างกราฟฟิต 3 มิติ แต่สุดท้ายแล้วก็มาลงท้ายที่การทำเว็บเพราะว่าศึกษาและทำความเข้าใจได้ง่าย
จริงๆแล้วหลังจากเรียน ปวช.จบ ผมก็มีโอกาศไจบกับ php-nuke อีก 2-3 ครั้งแต่จากการลองเล่นดูแล้ว ผลก็คือใช้งานยาก จะปรับเปลี่ยน template ก็ทำได้ยาก ว่ากันตรงๆก็ตั้งแต่เริ่มติดตั้งนั่นแหละครับ ทำไปทำมาบางทีก็ติดตั้งไม่ผ่าน บางทีก็ผ่าน (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) พอดีก็ได้ยินเพื่อนแนะนำให้ใช้พวก mambo ผมเองก็หาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตก็ไปรู้จักความรู้ที่กว้างมากกว่าเดิมคือ คำว่า
CMS (Content Management System)
เป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป โดยในการใช้งาน CMS นั้นผู้ใช้งานแทบไม่ต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ ตัวของ CMS เองจะมีโปรแกรมแถมมาและสามารถแทรกเองได้มากมายเช่น webboard , ระบบจัดการป้ายโฆษณา , ระบบนับจำนวนผู้ชม แม้แต่กระทั่งตระกร้าสินค้า และอื่นๆอีกมากมาย
CMS เป็นเหมือนโปรแกรม โปรแกรมหนึ่ง ที่มีผู้พัฒนามาจากภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในเว็บไซต์เช่น PHP , Python , ASP , JSP ซึ่งในปัจจุบันมีคนใจดีพัฒนา CMS ฟรีขึ้นมามากมายอย่างเช่น Mambo , Joomla , WordPress
และจากคำว่า CMS นี่เองครับที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ Joomla,Wordpress,Drupal และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งข้อดีของ CMS ที่ว่ามาก็คือ สามารถใช้งานได้ฟรี เรียนรู้การใช้งานได้ง่าย สามารถปรับแต่ง เพิ่มเติม ความสามารถต่างๆได้อย่างสะดวก ไว่ว่าจะเป็น template,plugin และส่วนสำคัญคือ มีระบบการจัดการบทความ ที่ทำให้สามารถเพอ่ม ลบ จัดการ เนื้อหาต่างๆภายในเว็บได้อย่างง่ายดาย ตามแนวคิดของ CMS ครับ
แล้วทำไมถึงใช้ Joomla ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ขอแนะนำให้รู้จัก joomla แบบคร่าวๆก่อนครับ
Joomla คืออะไร
เป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป ที่เรียกกันในชื่อ CMS (Content Management System) มีซอฟต์แวร์ Open Source มีลิขสิทธิ์แบบ GPL ผู้ใช้สามารถนำไปติดตั้งใช้งานได้ฟรี ในการใช้งาน Joomla! ผู้ใช้งานแทบไม่ต้องมีมความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้างเว็บไซต์ ได้ระบบมืออาชีพ
ภายในตัวติดตั้ง Joomla! มีโปรแกรมประยุกต์แบบพร้อมใช้งานอยู่ภายในมากมาย อาทิ ระบบจัดการบทความและข่าวสาร (News and Article) ระบบจัดการสมาชิก (Member) ระบบสืบคืน (Search) ระบบจัดการไฟล์มีเดียต่าง ๆ (Media) ระบบปฏิทินข่าวกิจกรรม (Calender) ระบบรวมรูปภาพเป็นแกลอรี่ (Web Gallery) ระบบจัดการเอกสาร (Document Management) เป็นต้น
CMS Joomla! จะแบ่งเว็บไซต์ออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ
Frontend คือส่วนที่แสดงผลให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือก็คือหน้าเว็บไซต์นั่นเอง
Backend คือส่วนการจัดการเนื้อหารวมถึงโครงสร้างของเว็บไซต์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าส่วน Admin
สรุปง่ายๆคือ เราสามารถใช้ joomla เหมือนเป้นโปรแกรมๆหนึ่งที่เอาไว้จัดการข้อมูลต่างในเว้บ อย่างการลงเนื้อหา การปรับแต่งหน้าตาของเว้บ การเพิ่มลูกเล่นสวยๆ หรือเครื่องมือเสริมอย่างเช่น เว็บบอร์ด ครับ ทั้งหมดที่ว่ามา เราหรือผู้ใช้เองแทบจะไม่ต้องไปยุ่งเรื่อง programing ใดๆทั้งสิ้นครับ ยกเว้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญครับ ที่ต้องการปรับแต่งแบบเจาะลึก
สรุปข้อดีของ Joomla แบบคร่าวๆครับ
– ใช้งานได้ฟรี เป็น Opensource ซึ่งหมายความว่าสามารถนำไปแก้ไขได้และใช้งานได้ฟรี
– ติดตั้งใช้งานง่าย มีระบบแนะนำการติดตั้งที่ช่วยในการตั้งค่าต่างๆซึ่งมีให้เลือกหลายภาษา
– มี Extention เสริมการทำงานที่หลากหลาย
– มี Community ขนาดใหญ่ สอบถุมปัญหาได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
– มีความปลอดภัยสูง มีการติดตามดูแลและออกเวอร์ชั่นใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ
เหตุผลที่ผมใช้ Joomla ก็เพราะความเป็นเว็บไซต์สำหรับองค์กรมากกว่า CMS ตัวอื่น ดูแล้วเป้นทางการมากกว่าครับ เรื่องนี้ผมสังเกตุเอาจากเว็บขององค์กร สถานศึกษา หลายๆแห่ง
ในการใช้งานจริงผมได้รับงานให้ทำการปรับปรุงเว็บไซต์เดิมของส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่
ซึ่งความต้องการคือ ต้องมีความสวยงาม เนื้อหาครบถ้วน และใช้งานได้ง่าย ตรงนี้สำคัญมากครับ เพราะจะต้องให้พนักงานที่นั่นใช้งาน joomla เป็น ในเรื่องนี้ผมจะใช้ทั้งการอธิบายและทำเอกสารขึ้นมา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น
ซึ่งตอนนี้เองผมก็ค่อยๆปรับปรุงเว้บไปเรื่อยๆครับ เพราะว่าเว็บเดิมมีโครงสร้างที่ผิดเพี้ยนไปหมด และคนทำเว้บคนเดิมก็ไม่ได้จัดข้อมูลเอาไว้ให้ ทำให้ผมต้องมานั่งจัดข้อมูลใหม่เอง ใช้เวลาไปนานพอสมควรเลยครับ
ตัวอย่างเว็บไซต์เดิมที่สร้างจาก php-nuke เปิดด้วย IE8 ที่ความละเอียด 1024*768
http://building-controlcm.com/index.php
ตัวอย่างเว็บไซต์เดิมที่สร้างจาก php-nuke เปิดด้วย IE8 ที่ความละเอียด 1024*768
http://www.building-controlcm.com/index/
เว้บทั้ง 2 เว็บที่เห็นจะเน้นสีชมพูครับ (เค้าขอมาครับ)
ในบทความต่อไปจะแนะนำการใช้งานจากประสบการณ์ตรงของผมครับ
ข้อมูลอ้างอิง :
– CMS คืออะไร
http://www.hellomyweb.com/tutorials.php?id_main=1&id_submain=2&id_submain2=0&id_content=121
-Joomla คืออะไร?
http://www.noartclub.com/index.php/Joomla-คืออะไร.html
No comments: