วิดีโอชุดนี้เป้นการแนะนำการติดตั้ง wordpress บน localhost และบน host จริง พร้อมการตั้งค่าเบื้องต้น สำหรับมือใหม่(อย่างผม) ครับ

[WpUsers] ตอนที่ 1 ติดตั้ง WordPress บน Localhost
ใช้ XAMPP 1.7.1 ในการทดลองครับ

[WpUsers] ตอนที่ 2 ติดตั้ง WordPress บน Host ของจริง
ทดลองบน demo.know2pro.com/wpdemo

[WpUsers] ตอนที่ 4 ตั้งค่าหลังติดตั้ง WordPress
ตั้งค่าการใช้งานทั่วไป หลังลง wordpress เสร็จครับ

ปกติการโพสข่าว บทความต่างๆ ลงใน wordpress เราสามารถทำผ่าน post ใน wordpress ได้เลย แต่สำหรับผม มันไม่ค่อยสะดวกนักครับ อย่างเช่นการเอาไฟล์รูปลง ก็ต้องมา save เป็นรูปและ upload ขึ้นไป การ post ก็ทำได้ทีละ post (ยกเว้นว่าเปิด browser หลายๆ tab)

โปรแกรม Windows Live Writer เป็นโปรแกรมเชียน Blog ที่ผมใช้เป็นตัวหลักครับ ข้อดีคือ ใช้ง่ายคล้าย word เวลาเพิ่มรูปเข้าไปก็สามารถ copy ไปวางได้เลย เรื่องการ upload รูปตัวโปรแกรมมันจะจัดการให้เอง

เอาเป้นว่าต้องลองใช้ดูเองครับ แล้วจะรู้ว่าโปรแกรมนี้มันดียังไง

โปรแกรม Windows Live Writer จะอยู่ในชุด Windows Live Essential สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากที่นี่ครับ

http://explore.live.com/windows-live-essentials-other-programs?T1=t5

การตั้งค่า WordPress เข้ากับ Windows Live Writer

– เข้าไปที่หน้า admin เลือก Settings > Writing

ติ๊กหน้าช่อง Enable ทั้งสองตัว แล้ว Save Changes

– กลับมาที่ Windows Live Writer เข้าไปที่เมนู Option

– เลือก Account และ Add

– เลือก Other services กด Next

– ใส่ข้อมุลของของเว็บให้ครบ

ตรง username และ password ก็คือชื่อแอดมินที่ใช้เข้า wp-admin นั่นเอง

– โปรแกรมจะตั้งค่า wordpress ต่างๆ ให้เอง รอจนเสร็จ

– ตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย กด Finish

– ในหน้าโปรแกรม ถ้ามีหลายๆ Blog ให้เลือก Blog ที่จะเขียนด้วย Windows LiveWriter ก่อน

สำหรับผมใช้โปรแกรมนี้กับทุกๆ Blog (ยาวมาก)

– เขียน Blog ตามปกติ จะใส่รูป วิดีโอ ก็ได้ครับ

ก่อน Publish ให้ตั้งวันเวลา Tag และ Categories ก่อน แล้วค่อย Publish ครับ

เสร็จแล้วก็ลองไปดููผลที่เว็บ

คำสั่งนี้ผมได้ใช้กับการจัดรูปแบบตัวเลบบนใบเสร็จครับ
เดิม 12345 ทำให้เป็น 12,345 หรือ 12,345.00 บาท
อะไรประมาณนี้ครับ

ฟังก์ชั่น number_format สำหรับจัดการรูปแบบการแสดงตัวเลข เช่น เติม , (comma) ในหลักพัน หรือตัด ทศนิยมเหลือ 2 ตำแหน่ง สำหรับการแสดงจำนวนเงินเป็นต้น

ฟังก์ชั่น จะคืนค่าในรูปข้อความ

number_format ( ตัวเลข[, หลักทศนิยม[, เครื่องหมายทศนิยม, เครื่องหมายหลักพัน]] )

ตัวอย่าง

[php]</span>

<?

$number = 123456789.2501;

echo number_format( $number )."
"; //123,456,789

echo number_format( $number , 2 )."
"; //123,456,789.25

echo number_format( $number , 2 , ‘%’ , ‘#’ )."
"; //123#456#789%25

?>

<span style="font-family: monospace;">[/php]

ที่มา : http://www.colo-panel.com/memo/?p=21

ในหลายๆงานเว็บที่ผมเคยทำ รวมไปถึงงานต่างๆในอนาคต ต้องมีเรื่องฐานข้อมูลเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอนครับ และในตอนทำ ผมก้จะทดลองบน localhost (XAMPP) ของตัวเอง ถ้าชัวร์แล้ว ก็เอาไปทดสอบบน host ของจริงอีกที

เรื่องฐานข้อมูลก็เหมือนกันครับ พอทำเสร็จ จัดการ Export ไฟล์ .sql ออกมาเรียบร้อยกะว่าใน host จริงที่ใช้ phpmyadmin จะ import ครั้งเดียวไปเลย แต่ปรากฎว่าไฟลืที่รองรับดันมีแค่ 2 MB ส่วนไฟล์ที่ sql ที่ผมมีคือ 6MB (ใหญ่กว่านิดหน่อย)

จริงๆ วิธีเพิ่มขนาดไฟล์อัพโหลดของ phpmyadmin มันก้มีครับ แต่ผมไม่อยากวุ่นวายไปติดต่อ host ให้เพิ่มขนาด และอะไรอื่นๆอีก

จัดการเองดีกว่า ใช้โปรแกรม SQLDump Splitter ก็จบครับ

ดาวน์โหลด SQLDump Splitter [179KB – DropBox]

โปแรกมเล็กๆ แต่ใช้งานได้ดีครับ เปิดโปรแกรมขึ้นมาทำตามขั้่นตอน 1,2,3 โปรแกรมมีบอกไว้แล้ว

พอ Execute เสร็จ ก็ไปดู Folder จะเห้นว่ามีไฟล์ที่แบ่งไว้ให้แล้ว วิธีการ Import ก็ให้เริ่มที่ไฟล์ ที่ลงท้ายด้วย DataStructure.sql ก่อน แล้วตามด้วยไฟล์ 1,2,3… ไปเรื่อยๆจนครบครับ

สอบ Project เสร็จไปตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2555 ครับ ก่อนการ Present มีติดขัดปัญหาเรื่องกรรมการบ้าง แต่สุดท้ายการ Present ก็เป็นไปด้วยดี โครงการนี้ถึงจะดูแปลกๆ ขัดกับความเป็นจริงไปบ้าง แต่กรรมการก็ไม่ได้ติอะไรมาก ถามแต่เพียงการทำโครงการ โดยเน้นที่ตัวอุปกรณืเป็นหลัก ซึ่งก็คือ หน้าที่ของผมเอง หลังจากผ่านการสอบ ในตอนนี้ก็ต้องมาแก้เอกสาร โปรแกรม กันพอสมควร เพื่อให้กรรมการเซ็นผ่าน

แต่ระหว่างนี้ผมก็ได้ทยอยอัพโหลดไฟล์ภาพ ไฟล์งาน เท่าที่จะอัพได้ ขึ้นบนเว็บแล้วครับ

และในตอนนี้ก็ขอเริ่มด้วยภาพ ตัวเครื่องทั้ง 2 เวอร์ชั่น ซึ่งผมตั้งชื่อว่า Mark1 และ Mark2 (ตามหนัง IronMan ที่ผมชอบ แต่ไม่มี Mark3 แล้วสำหรับผม)

สำหรับเอกสาร Project ผมจะทยอยลง เฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเท่านั้นครับ คงต้องรอส่งเอกสารให้เรียบร้อยก่อน

RFID Project 2012 Mark1 (Prototype)

RFID Project 2012 Mark1 ปัญหา Tag และ USB Hub

RFID Project 2012 Mark1 RFID Reader 2 Model

RFID Project 2012 Mark1 ทดสอบระยะการอ่าน 10 cm

RFID Project 2012 Mark1 อ่าน Tag ได้มากกว่า 1 Tag

RFID Project 2012 Mark2 Final

RFID Project 2012 Mark2 Final Reader และ USB Hub

RFID Project 2012 Mark2 Final Hardware Design

RFID Project 2012 Mark2 Final อุปกรณ์อื่นๆ

RFID Project 2012 Mark2 Final ตัวสมบูรณ์

RFID Project 2012 Mark2 Final ระยะการอ่าน 10 cm

RFID Project 2012 Mark2 Final อ่านได้มากกว่า 1 Tag

เมือวานนี้มีโอกาศได้ทดลองใช้งาน Opencart 1.5.2.1 ภาษาไทย ตัวล่าสุด

ดาวน์โหลดไฟล์ OpencartCart 1.5.2.1 ภาษาไทย ได้จากที่นี่ครับ

http://www.opencart2004.com/index.php/topic,711.0/Thai-Opencart-1.5.2.1-ทดสอบการใช้งานได้แล้ว.html

เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยได้ทดลองใช้ Opencart 1.4 เพราะช่วงนั้นมีแต่คนถามหาระบบร้านค้าที่ใช้ง่าย ซึ่งผมก็ไล่ทดลองอยู่หลายๆ ตัว และตัวหลังสุดที่ทดลองใช้แล้วพบว่า ใช้ง่ายจริงๆ ก็คือ Opencart นั่นเอง

พอได้ลอง Opencart 1.5.2.1 ก้พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปลหายๆส่วน อาจจะเพราะผมไม่ได้เล่น Opencart นานแล้ว เลยรู้สึกไปเองก็ได้

เริ่มแรกผมทดลองติดตั้งบน localhost ลองใส่ theme module ต่างๆ เท่าที่จะหาได้ เลยสังเกตุได้ว่า

- ระบบ banner ทำงานร่วมกับ slideshow ได้ดี ใช้ง่าย จัดการง่ายด้วย

- ระบบการซื้อสินค้าดูเป็นขั้นตอนดี เหมาะมากกับลูกค้าที่เพิ่งเคยซื้อของครั้งแรก จะได้รู้ขั้นตอนการซื้อแบบเป็นขั้นเป็นตอน

- theme ใหม่สวยมาก แทบไม่ต้องปรับแต่ง แต่ถ้าจะหา theme มาใช้ก้มีทั้งฟรีและไม่ฟรี แล้วแต่จะหา แต่แย่าลืมเรื่อง ลิขสิทธิ์ของ http://www.opencart2004.com ด้วยเด็ดขาด

- module และ theme ยังใช้วิธีการติดตั้งแบบเดิมคือ การ Copy ไฟล์ไปทับ ซึ่งต้องระวังหน่อย ตอนผมทดลองใช้ จะ backup ไฟลืทั้งหมดไว้ก่อนลง module เสมอๆ (กันพลาด)

- module มีให้ใช้พอสมควร ทั้งไทยทั้งเทศ คิดว่าอนาคตน่าจะมีมากขึ้นเรื่องๆ แบบเดัยวกับ Opencart 1.4

เท่าที่ใช้งานมาเบิ้องต้นก็มีเท่านี้ครับ ตอนนี้ผมได้ย้ายไฟล?ทั้งหมดมาบน Host จริงแล้ว

http://demo.know2pro.com/myshop1/ (2013 – Link เสียไปแล้ว)

Opencart 1.5.2.1 ตัวนี้ ผมทดลองลง theme และ module แบบเต็มขั้นเลยครับ เพื่อดูว่ามีลูกเล่นอะไรบ้าง ส่วนมากจะเน้นไปทาง vqMod

ตอนต่อไปจะพูดถึงการติดตั้งและแนะนำ module รวมไปถึง theme ต่างๆ ครับ

โปรแกรม PNGGauntlet เป็นโปรแกรมที่ใช้ย่อขนาดไฟล์ PNG ที่ได้ผลดีและกิน CPU มากเอาเรื่องแบบในภาพ

เหตมาจากเว้บ sub ของ know2pro.com ที่อัพภาพไว้มากๆเข้า มันไปกิน bandwidth ของเว้บทั้งหมด จนทำให้เว็บล่ม อาจจะโดน Hotlink Image ด้วย พอตต้นเดือนมีนา ผมเลยโหลดรูปใน host ทั้งหมดมาลดขนาดรูปลง ก่อนจะอัพกลับไปไว้ที่เดิม ตอนนี้ก็พอแก้ปัญหาได้แล้ว ยิ่งบวกกับการย้ายรูปไปไว้ที่ blogspot ยิ่งช่วยลด Bandwidth ได้เยอะครับ

ดาวน์โหลด PNGGauntlet [Freeware]  ที่นี่

เหตุเกิดจากผมมีไฟล์วิดีโอเก่าๆ ที่เคยทำสมัยเรียน ตอนนั้นทำออกได้เป้นไฟล์ SWF พอส่งงานก็จบไป แต่ตอนนี้นึกขึ้นมาว่าอยากเอาไปใส่ใน youtube แต่ติดที่ว่า SWF มันไม่ใช่ไฟล์วิดีโอ

วิธีแก้คือ การแปลงไฟล์ SWF ให้เป็นไฟล์ Video อะไรก็ได้ เพราะไฟล์นี้ไม่ใช่ HD (6 ปีก่อน ยังไม่รู้จัก HD เลย) เพราะฉะนั้น ขอให้แปลงไฟล์ออกมาเป็น Video ก็พอ

ผมไล่หาไล่ทดลองอยู่หลายตัว ก็ไปเจอโปรแกรม 2 ตัวนี้เข้า สามารถแปลงไฟล์ได้จริงๆ แต่มีข้อแม้ว่า

- การแปลง SWF เป็น Video จะเริ่มด้วยการเปิดไฟล์ SWF ส่วนตัวโปรแกรมจะจับภาพและเสียงที่ออกมาทำให้ได้เป็นไฟล์ Video ดูไปคล้ายๆ การ Capture ยังไงๆ อยู่

- หลังจาก Capture เสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นการ Convert ช้าเร็วก็ขึ้นอยู่กับเครื่อง

โปรแกรมที่ผมจะแนะนำคือ Moyea SWF to Video Converter Pro v3

ใช้งานไม่ยาก ทำตามที่โปรแกรมบอกได้เลยครับ

ส่วนโปรแกรมที่ต้องระวังกันหน่อย และไม่แนะนำให้ใช้คือ iWisoft FlashSWF to Video Converter 3.4

ไม่แน่ใจว่าเป้นที่โปรแกรมหรือ Windows 7 64bit เพราะตอนทำงานอยู่ดีๆ โปรแกรมนี้ก็ไม่ capture ภาพ ดันไปจับแค่เสียง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนอัพขึ้น youtube ครับ

ตามปกติแล้วถ้า Copy URL ของ Youtube มาวางใน Windows Live Writer มันจะแสดงเป็นหน้าต่าง Player ให้ทันที แต่ใน Joomla 1.5 ที่ผมใช้ เวลา Publish บทความไปแล้ว พอกลับมาดูในเว็บจริงๆ อีกที กลายเป้นว่าวิดีโอที่ใส่ไป กลับไม่แสดงออกมา

วิธีแก้ง่ายๆคือ หา Joomla Plugin ที่ช่วยการ Embed Youtube

และที่หาเจอก่อนก็คือ “Youtube Embed Custom” เป้น Plugin ขนาดเล็กที่ลงแล้ว ต้องไปเปิดการทำงานใน Plugin ก่อนถึงจะใช้ได้

ส่วนโค้ดที่ผมลองกับ knwo2pro.com แล้วได้ผลดีที่สุดคือ

พอใส่ไปแล้วจะได้แบบนี้

[atube]hIR8Ar-Z4hw[/atube]

การปรับแต่งค่าต่างๆ

พอดีว่าได้ไอเดียจาก TED.com เห็นในหน้าแรกมี Highlight คล้ายๆ ว่าจะเป้น content พอเอาเมาสืไปวางก้มี hover effect อีก เข้าท่าดี เลยอยากลองทำดูบ้าง ถึงจะไม่รู้วธีก็ตาม

เริ่มจากคำถามของเว็บนี้ คล้ายๆกับที่ผมอยากได้พอดี

What’s the name of jQuery plugin which auto arranges div/image elements on page?

จากที่หาข้อมูลมาได้ และที่ถูกใจผม ก็มีตามนี้ (ยังไม่ได้ลองแกะโค้ด)

jQuery Masonry (DEMO)
โค้ดสั้นๆ ปรับแต่งได้หลายแบบ ใช้ได้ทั้งภาพ ข้อความ วิดีโอ
http://masonry.desandro.com/demos/basic-single-column.html

Seamless Responsive Photo Grid (DEMO)
เน้นรูปภาพ แต่น่าจะปรับแต่งให่ใช้กับข้อความได้ด้วย
http://css-tricks.com/seamless-responsive-photo-grid/

Isotope (DEMO)
ตัวนี้ดุคล้าย jQuery Masonry มาก แต่ลูกเล่นการเคลื่อนไหวเยอะกว่า เจ่งกว่ามาก
http://isotope.metafizzy.co/index.html

Automatic Image Montage with jQuery (DEMO)
ตัวนี้ถูกใจผมมาก เพราะมันคล้าย Blogger Dynamic View ขาดไปแค่การ Hover และ Link บนรูป ถ้าเอามาโมดีๆก็น่าจะใช้งานได้
http://tympanus.net/codrops/2011/08/30/automatic-image-montage/

Sponsor Flip Wall With jQuery & CSS (DEMO)
หน้าตาอาจจะไม่เกี่ยวกับการจัดหน้าเว้บ แต่ผมชอบตอนคลิ๊กเปิดรูป อาจจะเอามาใช้คล้ายๆกับ TED ก็ได้

http://tutorialzine.com/2010/03/sponsor-wall-flip-jquery-css/

plugin ตัวนี้เพิ่มลูกเล่นเกี่ยวกับข้อความเข้ามาด้วย น่าจะเอามาโมเล่นได้ไม่ยากนัก เก้บเอาไว้เป้นตัวอย่างเปรียบเทียบกับตัวอื่นๆ เผื่อว่าจะมีตัวที่มีลูกเล่นมากกว่านี้

http://addyosmani.com/blog/zoomer-gallery-a-jquery-plugin-for-displaying-images-with-flash-like-zooming-effects/

อธิบายไม่ถูกครับ สำหรับผมมองว่ามันเหมาะมากสำหรับรูป Banner ขนาดเล็ก พอใช้เมาส์วางไปบนรูป มันก็จะ Zoom เข้ามานิดหน่อย เป็นลูกเล่นง่ายๆ แต่โค้ดยาวพอควร

http://www.queness.com/post/590/jquery-thumbnail-with-zooming-image-and-fading-caption-tutorial

ลแงเอามาทำ demo ดูก็โอเคครับ แกะโค้ดไม่ยากจนเกินไป

http://demo.know2pro.com/jquery/zoomthumb/

เพิ่งลองมาเล่น jQuery ครับ สาเหตุก็เพราะงานที่เจอ ถ้าเล่น HardCode กับพวก JavaScript อาจทำให้ตาลายได้ เลยลองหันมาเล่นอะไรที่มันสั้นๆ ง่ายๆ เข้าใจได้เร็ว แก้ได้ไวๆ

เดิมทีผมเขียน php เวลาจะย่อรูปก็จะใช้ phpThumb ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่จะรับ parameter ชื่อรูป ความกว้าง ยาว สูง แล้วย่อรูปให้ แต่การย่อ มันจะสร้างรูปเก้บไว้ที่ folder cache ทุกครั้ง นานเข้าๆ  folder นี้เลยบวมออกๆ ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่พอมาใช้ jquery มันก้ง่ายขึ้นเยอะ

http://code.google.com/p/resize-crop/downloads/list

ผมลองใช้ดูแล้วครับ ทำตัวอย่างเอาไว้ดูแบบง่ายๆ เผื่อคราวหลังมาดูใหม่อีกที

http://demo.know2pro.com/jquery/resizecrop/

ผ่านกันไปอีกสามเดือนแล้วครับ งาน Project RFID ก็ใกล้ถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

ที่ผ่านมา ผมได้เร่งทำตัวเอกสาร project และปรับปรุงตัวเครื่องให้ดีขึ้น

เพราะมีวันหนึ่งตอนกำลังจะไปซ้อมการเสนอ Project กับ อ.ที่ปรึกษา ปรากฎว่างานเข้าครับ เครื่องดันไม่ทำงานขึ้นมาซะงั้น พอกลับไปเช็ตก็เลยเจอสาเหตุว่า Port USB ที่อยู่บนแผ่นปริ้น ทันหลวมและมีแววว่าจะพังอีกแน่ๆ

งานนี้เลยต้องแก้กันใหม่ ไปซื้อสาย USB สีฟ้า ราราถูกๆ มาเปลี่ยนเพราะมัน Shield สายมาเรียบร้อย น่าจะดีกว่า ซื้อ Port มาบัดกรีเอง

ส่วนเรื่อง Paper ก็ลำบาก พอสมควร เพราะต้องรวมข้อมุลส่วน Software จากเพื่อน (ผมทำ Hardware เพื่อทำ Software) ในการทำ paper ผมเองก้ต้องระลึกชาติการใช้งาน Microsoft Word 2007

พอทำเสร้จก็๋เอาไปให้ อ. project ตรวจสอบ สรุปว่าแก้ 2 รอบ

แต่ว่าจะแก้เสร็จก็ไม่ทันส่งในเทอมนี้ (เทอม 2 ปีการศึกษา 2554) เอาเป้นว่าขอ I (Incomplete) วิชา Project

และที่เกือบงานเข้าอีกคือ เกือบทำเรื่อง I ไม่ทัน เพราะปกติ ผมไม่ค่อยตามข่าวมหาลัยหรือแผนกเลย

ในตอนนี้ทำเรื่อง I ไปแล้ว รอทำเรื่องสอบอีกที

แต่จากเรื่องราวที่ผ่านมา พบว่า ตนเป้นที่พึ่งแห่งตนจริงๆ

ถ่ายรูปด้วยกล้อง WEBCAM ตัวเครื่องออกแบบเอง ตัดเอง ประกอบเองหมด เพราะคิดแบบกันสดๆ

ระหว่างที่กำลังเขียนบทความนี้ ผมคุ้นๆว่าจะเคยเขียนแนะนำโปรแกรมนี้ไปแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ อีกสักทีก็ได้

หลังจากการล่มสลายของเว้บฝากไฟล์รายใหญ่คือ Megaupload ที่มีผลทำให้ FileSonic หยุดการแชรไฟล์ เพราะกลัวโดนจับ เว็บฝากไำฟลืรายย่อยอื่นๆ ก็เข้ามาแทนที่ ผมเองเวลาดาวน์โหลดไฟล์ก็มักจะโหลดจากเว้บเดียวกันตลอด เช่น Mediafire 4Shared ประมาณนี้

ตอนแรกก็กะว่าจะคลิ๊กเองทีละ Link แต่ก้่เหนื่อยครับ ต้องกด Download แล้วมานั่งรออีก 30 วินาที ถ้ามีเป็นสิบๆไฟล์ ก้ต้องรอนาน ผมเลยใช้โปรแกรมนี้ช่วยครับ

ดาวน์โหลด Mipony (Freeware)

การติดตั้งก็ง่ายๆ ครับ แต่มีให้ระวังตรง Toolbar ที่ชอบแถมมาให้ (Freeware ชอบแถม Toolbar มาให้ตลอด)
อย่าลืมติ๊กออกให้หมดครับ

การใช้งานไม่ยาก และที่ผมชอบมาคือ โปรแกรมทำงานเร้ว เร้วกว่า jDownload ซะอีก

เข้าไปในหน้า Add Link ใส่ Link ในช่องบน จากนั้นกดปุ่ม Detect Link รอสักพัก ถ้าโปรแกรมรองรับเว็บนั้น ก้จะมีรายชื่อในช่องด้านล่าง  ถ้าชัวร์แล้วก็กด Download Selected ได้เลย

ถ้าเว็บฝากไฟล์มีการใส่ Captcha โปรแกรมนี้ก็จะมีหน้าต่างให้ใส่ด้วยครับ ผมใช้โปรแกรมนี้มาตั้งแต่ Filesonic และ Megaupload ยังอยู่ และเว้บฝากไฟลืใหม่ๆ ก็รองรับครับ

หนึ่งในโปรแกรมที่ผมใช้มานานมากและจำเป้นต้องใช้ นั่นก็คือ AIMP ครับ โปรแกรมฟังเพลง ใช้งานง่ายๆ และสะดวกมากที่สุดเท่าที่เคยใช้มา จริงๆ แล้วเครื่องผมลง AIMP2 ไว้นานแล้ว แต่เพราะมีปัญหาเรื่องเพลงและฟังก์ชั่นอื่นๆ วันนี้เลยตัดสอนใจอัพเกรดจาก Aimp2 เป็น Aimp3 ซะเลย

ความสามารถอื่นๆ ของโปรแกรมเท่าที่ใช้ดุยังมีเหมือนเดิม และเพราะผมเป้นแค่ผู้ใช้ทั่วไป ฟังเพลง MP3 ธรรมดา ใช้หูฟัง 199 ดังนั้นเรื่องคุณภาพเสียงผมไม่เน้นครับ

แต่ที่ชอบ AIMP มาตั้งแต่แรกเพราะมันมีระบบ Playlist Tab แยกกันไว้เป้น Tab เหมือน Browser มันสะดวกมากๆ เพราะจัดการเพลงได้ง่าย

และที่ชอบมากอีกส่วนคือ Skin แบบ All in One ที่ติดใจตั้งแต่ AIMP2 ในเวอร์ชั่น AIMP3 นี้ก้มี Skin แบบ AllinOne เหมือนกัน แต่มีดีหลายอย่างคือ ปรับขนาดได้ จะยืดเขายืดออกก็ทำได้ สีสวยดูเรียบง่ายดี

เรื่องการปรับแต่งมีเปลี่ยนบ้างครับ แต่ก้ยังทำได้เหมือนเดิม นั่งหาอยู่สักพักก็เจอ

การตั้งค่าหลักๆแล้วผมจะตั้งการแสดงรายชื่อเพลงใน Playlist แบบในภาพ ไม่ให้มันรกมากจนเกินไป
ปรับการย่อโปรแกรมให้ไปอยู่ที่ Taskbar เพราะใน Win7 มันกดง่ายดี แล้วก็ปรับเรื่องการเล่นเพลงนิดหน่อยครับ

เรื่องการกิน Ram ก็ไม่มากครับ เพิ่มจาก AIMP2 บ้าง

ดาวน์โหลด AIMP3 ได้จากที่นี่ http://aimp.ru/index.php?do=download