ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ กระแสเรื่อง Mobile หรืออุปกรณ์โทรศัพท์ Smartphone และ Tablet Phonelet กำลังมาแรง ราคาไม่กี่พัน ก็ซื้อหามาใช้งานได้แล้ว และเพราะตอนนี้มีคนใช้อุปกรณ์จอเล็กๆ แบบนี้มากขึ้น

คนทำเว็บแบบผมก็ต้องปรับตัวให้ทันกระแส จะได้ไม่ตกยุคมากจนเกินไป

แต่เดิมการทำเว้บก็ทำเพื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์ปกติ ความละเอียดก็ตั้งแต่ 1024×768 ไล่ไปจนถึงระดับ HD อย่างทุกวันนี้ การเขียนโปรแกรมก็ง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เพราะมีเครื่องมือง่ายๆ แบบ Dreamweaver ให้ใช้ ช่วยประหยัดเวลาเขียนโค้ดได้เยอะ

ทีนี้ผมเอง ถึงจะไม่ได้รับเขียนเว้บเป็นอาชีพหลัก แต่ก้เริ่มสนใจการเขียน web ให้ไปแสดงได้บน smartphone เอามากๆ

จริงๆ แล้วต้องเริ่มจากการเขียน App Android ก่อน ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยมีหัวเรื่อง Java, OOP สักเท่าไหร่ เลยคิดว่าถ้าจะเอาเป็น Native App ก็คงยาก ต้องมาเรียนตั้งแต่เริ่มกว่าจะเสร็จคงนาน

อีกวิธีคือ เปลี่ยนมาใช้ jQuery Mobile Framework

Framework คือ การรวมเอาโค้ด ฟังก์ชั่นต่างๆ ไว้ในที่เดียวกัน เวลาใช้งานก็จัง่ายเพราะไม่ต้องเขียนเอง แต่ต้องเรียนรู้วิธีเรียกใช้อีกทีหนึ่ง

jQuery Mobile คือ การรวมกันระหว่าง HTML CSS Javascript ที่เหมาะกับการทำเว้บบน Mobile โดยเฉพาะ

พอเอา jQuery Mobile + Framework ก็ได้ว่า ชุดคำสั่งสำเร็จรูปสำหรับสร้างเว้บสำหรับอุปกรณ์ Mobile

ข้อดี (เท่าที่รู้ตอนนี้)

– เขียนง่าย เพราะเป้นการเขียนเว็บเหมือนการเขียนเว้บทั่วไป

– ใช้งานกับ Dreamweaver ได้ (แนะนำว่าควรเป้น CS6)

– หลังจากทำเสร็จ ถ้าอยากได้เป้นไฟล์ app เช่น apk ของ android ก็ส่งไฟล์เข้าไปที่ phonegap แล้วจะได้ไฟล์ออกมาเลย (รายละเอีดยลึกๆจะมาเล่ากันทีหลัง)

ข้อเสีย (เปรียบเทียบกับ Native App)

– ทำงานช้ากว่า

ตัวอย่างงาน(กำลังทดสอบ) บน PC

ตัวอย่างงาน(กำลังทดสอบ) บน Android

เรื่องความเร็ว ผมลองทดสอบดูแล้ว ใน Mobile จะทำงานช้ากว่า PC อยู่มากโข

และเพราะว่าผมฝึกเอง งมเอง ทำเอง ความรู้ที่ได้เลยไม่ประติดประต่ออะไรมาก แต่ก็พอจะแนะนำให้คนที่เริ่มต้นได้บ้างครับ

แหล่งความรู้ที่ผมแนะนำก็มีตามนี้เลย สำหรับมือใหม่ ที่มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรม Web มาบ้างแล้ว

1. สร้างเว็บ Mobile Application ด้วย Dreamweaver CS6

เริ่มต้นง่ายๆ ยังไม่ถึงกับเขียนโค้ด แต่เป้นการมองภาพรวมว่า jQuery Mobile และ Dreamweaver ทำอะไรได้บ้าง

2. แหล่งวิดีโอสอนการใช้งาน jQuery Mobile ภาษาอังกฤษ

เจาะลึกถึงโค้ด มีตัวอย่างใหม่ๆที่ใช้งานได้จริง เพิ่มให้เห็นภาพมากขึ้น ฟังไม่เข้าใจก็ไม่เป้นไรครับ ดูภาพตามเอาก็ได้ ผมเองดูเอาว่าทำยังไง ได้ผลแบบไหน แล้วทำตามอีกที

jQuery Mobile Essential Training

jQuery Mobile Web Applications

Building Android and iOS Apps with Dreamweaver

TutsPlus – Go Portable With jQuery Mobile (Youtube)

TutsPlus – Simple Development with jQuery Mobile

ไฟล์ที่ว่าจะทยอยอัพโหลดไปเรื่อยๆครับ

สำหรับตอนต่อๆไป ผมจะเน้นเทคนิคบางเรื่องของ jQuery ที่ไม่มีในหนังสือครับ

Credit : http://www.daydev.com/2012/jquery-mobile.html

วันนี้เป็นเรื่องการติดตั้ง Theme ใน vbulletin ที่จะซับซ้อนกว่าเว็บบอร์ดทั่วไปเล็กน้อยครับ

สมมุติว่ามีไฟล์ theme ที่แตกไฟล์ออกมาแล้ว

ไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญคือ
โฟลเดอร์เก็บไฟล์ภาพต่างๆ จะชื่อเดียวกับ theme ในรูปคือ primus
ไฟล์ xml ตัวโครงร่างของ theme เก็บไว้ใน Primus XMLS

1. อัพโหลดไฟลเดอร์ primus ไปไว้ใน /localhost/images
ก็จะได้เป็น  /localhost/images/primus

2. เจ้าหน้าหลังบ้าน ไปที่ Styles & Templates >> Download/Upload Styles

3. ในส่วน Import Style XML File ช่องแรกให้ Browse เลือกไฟล์ xml
ถ้า theme นั้นมีหลายไฟล์ให้อัพโหลดไฟล์ที่ลงท้ายว่า forum.xml ไว้ก่อน
เพราะไฟลืนี้จะเป็นไฟล์พื้นฐานของ theme
และถ้าจะลง theme สีต่างๆ ก็ให้อัพโหลด xml ที่เป้นไฟล์อื่นๆเพิ่มเข้ามาทีหลัง
เสร็จแล้วกด Import

ถ้าเจอหน้าเว้บแบบนี้ก็แสดงว่าลง Theme เสร็จแล้ว

4. วิธีการใช้งาน Theme ให้ไปที่ Styles & Templates >> Style Manager
กดเลือกชื่อ Theme ที่จะใช้งานเป็นอันเสร็จครับ

Credit : http://www.vbulletin.org/forum/showthread.php?threadid=202933

หลังจากเสร็จเรื่องการติดตั้ง vbulletim 4.2.0 ไปแล้ว ต่อมาก็เรื่องภาษาไทยที่ใช้แสดงผลทั้งหน้าเว้บและหลังบ้าน

ภาษาไทยที่ผมมีตัวนี้แปลข้อความบางส่วนเท่านั้นครับ แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าไปโหลดมาจากที่ไหน (ใครรู้ที่มาบอกด้วย เพราะผมหาไม่เจอเลย)

>>ดาวน์โหลดไฟล์ภาษาไทยสำหรับ vbulletin 4.2.0 <<

บันทึก vBulletin ตอนที่ 2 การติดตั้งภาษาไทยใน vBulletin 4.2.0

1. เข้าหลังร้าน เมนูซ้ายมือ เข้าไปที่ Language & Phrases >> Download/Upload Languages

2. ทางขวาที่ส่วน Import Language XML File
ช่องแรกให้ browse ไฟล์ .xml ที่ได้จากการแตกไฟล์ของไฟล์ภาษาตาม link ดาวน์โหลดด้านบน

ติ๊กเลือก Ignore Language Version

และกด Import

3. พอลงเสร้จแล้วให้เข้าไปที่ Language & Phrases >> Language Manager
กด Set Default ที่ภาษาไทย

4. ทดลองเข้าหน้าเว็บดูผลที่ได้ ภาษาไทยของ vbulletin ใช้ข้าม theme ได้ครับ ทดสอบแล้วหลายตัว

Credit : http://hot-th.com/thread-986-1-1.html

ถ้าพูดถึง Script สำหรับสร้างเว็บบอร์ดแล้ว จะมีทั้งของฟรีและเสียเงิน แต่ส่วนมากจะใช้ของฟรีอย่างเช่น SMF , Discuz กันมากกว่า

แต่สำหรับฝั่งเสียเงิน ที่ผมเห้นหน้าตาบ่อยๆ ก็จะเป้นตัวนี้ vBulletin เว็บดังๆในบ้านเราเช่น notebookspec, jokergame ก็ใช้ตัวนี้กัน

ข้อดี ที่เขาว่ากันคือ คือระบบดีกว่า ความสามารถมากกว่า และราคาที่แพงกว่า ถึงหลักหมื่น

ผมเลยสงสัย อยากจะลองใช้งานดูเริ่มจาก Localhost ก่อน เพราะเว้บจริงยังไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี

การติดตั้ง vBulletin 4.2.0
1. แตกไฟล์ zip และอัพโหลดขึ้นเว็บ, สร้าง database เปล่าๆ มา 1 ตัว
ในตัวอย่างผมทดลองบน localhost/vbulletin และใชื่อ db คือ vbulletin

2. ไปตั้งค่าในไฟล์ /includes/ config.php.new แล้วแก้ไขค่าตามนี้

$config[‘Database’][‘dbname’] = ‘ ชื่อฐานข้อมูล ‘;
$config[‘MasterServer’][‘username’] = ‘ ชื่อผู้ใช้ phpmyadmin';
$config[‘MasterServer’][‘password’] = ‘ รหัส ‘;

ในตัวอย่างนี้คือ

$config[‘Database’][‘dbname’] = ‘vbulletin';
$config[‘MasterServer’][‘username’] = ‘ root';
$config[‘MasterServer’][‘password’] = ‘1q2w3e4r';

เสร็จแล้ว save และแก้ชื่อไฟล์จาก /includes/ config.php.new ให้เป้น /includes/ config.php

3. เปิดเว็บ localhost/vbulletin เริ่มการติดตั้ง กด Begin Install

4. เราก็รอไปเรื่อยๆ ระบบจะติดตั้งให้เอง

5. ระหว่างที่ติดตั้งจะมีหน้าต่างให้ตั้งค่าตามความต้องการของเราเอง เช่น ชื่อ รหัส ชื่อเว้บ ก็ให้ไปใส่ลงไป

ตั้งชื่อ title เว็บและ url

ตั้งค่า cookie ให้กด ok ข้ามไปได้เลย

ส่วนสำคัญชื่อและรหัสของ admin

รอจนเสร็จครบทุกขั้นตอน (ใช้เวลานานพอสมควร)
จะมี popup แจ้งตามรูป ให้กด go to Admin CP เพื่อเข้าระบบหลังบ้าน

แต่พอกดไปแล้วจะเจอหน้าเว็บเตือนว่ามีไฟล์ install ค้างอยู่

ก็ให้กลับไปลบโฟลเดอร์ install ทิ้ง

6. เข้าเว็บ localhost/vbulletin/admincp แล้ว log in ดู

ถ้าเข้าถึงหน้าหลังบ้านโดยที่ไม่ติดปัญหาอื่น ก็ถือว่าเรียบร้อย

Credit : http://hot-th.com/thread-628-1-1.html

เครื่องมือทำมาหากิน นอกจาก notebook แล้ว ตัวสำคัญของผมคือ Mouse Wireless แต่ก่อน เคยใช้แบบสาย แต่พกลำบากต้องมาม้วนมาคลายปมตอนจะใช้งาน

ขอดีของ Mouse Wireless คือ ไม่มีสาย อันนี้แน่นอน และใช้งานง่าย มีตัว Receiver USB เล็กๆ เอาไว้เสียบค้างที่ notebook พอจะใช้งานก็เอาเมาส์มาใหช้งานได้เลย

ตัวแรกที่ผมใช้คือ รุ่น Logitech M185 เพราะราคาถูกดี(สำหรับผม) แต่ก็กลัวๆ ว่าจะไม่ถนัด เพราะเมาส์ปกติที่ใช้เป็นตัวใหญ่แบบของ Gaming Gear เหมาะมือมาก แต่ตัวนี้เล็กกว่าเยอะ

เอามาใช้งานจริง ก็ค่อยๆ ปรับตัวไปจนชิน

หลังใช้งานมาร่วมปี ถ้าไม่นับอาการถ่านหมด ก้เจออยู่ปัญหาเดียวคือ เมาส์มันคลิ๊กไปเอง แบบที่ว่ากดคลิ๊กเดียวกลายเป้น Double Click

ลองไปตั้งค่า Mouse แล้วก็ช่วยไม่ได้ เลยจำใจต้องซื้อใหม่ และคงไม่ใช้รุ่นนี้แล้ว235

ใช้งานไปนานๆ ตัวเมาส์จากผิวด้าน กลายเป็นมันลื่นปรื้ดๆ

ลองไปเดินดูหาแบบไม่แพง ก็เจอหลายตัว แต่เป็นยี่ห้อที่ไม่รู้จัก

กลับมาเอาแบบ Logitech เหมือนเดิม ในรุ่น M235

ราคาก้แพงกว่า M185 นิดหน่อย แต่ข้อดีคือ ด้านข้างมียางเอาไว้จะได้จับเมาส์ได้แน่นขึ้น

อีกอย่างคงเป็นเรื่อง Receiver ที่คนขายบอกว่า ถ้าหายก็มาซื้อยกได้ เพราะมันใช้เป็นตัวกลางกับเมาส์หลายๆ รุ่น

จริงๆ แล้วผมสนใจตัว Rapoo ที่ freeware.in.th อ.ศุภเดช เคยแนะนำไว้ แต่หาของแถวนี้ไม่ได้ ถ้าตัวนี้เสีย คงได้ใช้ rapoo แน่นอน

เว็บไซต์ ted.com/talks เป็นเว็บที่รวบรวมผู้คนหลากลายสาขาวิชา ที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ทั่วโลก มาพูดสั้นๆ ให้แรงบันดาลใจหรือความคิดสร้างสรรค์ บางเรื่องก็ชวนให้คิด อย่างเช่น ทำไมในคณิตศาสตร์ถึงใช้ตัว X แทนตัวที่ไม่ทราบค่า

จริงๆแล้วผมรุ้จัก Ted มานานร่วมปี จากการทำงานหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้เข้าไปเลย เพราะใน ted มีแต่ภาษาอังกฤษหรือซับอังกฤษที่แม่จะพยายามอ่าน แต่บางเรื่องก้ยากเอามากๆ เล่นเอาถอดใจ

จนไม่นานมานี้ไปเจอเพจ TED: Thai Translators ใน Facebook เป้นการรวมกลุ่มของคนที่สนใจ ted และคนแปล นั่นทำให้ผมและหลายๆ คนมีโอกาสได้ดูงานดีๆ ที่มีซับไทย อ่านและเข้าใจง่ายมากๆ

แต่ว่าบางทีก็ไม่ได้ออนไลน์เข้าเน็ต หรือเน็ตช้าจน buffer อยู่นาน ใน android เปิดใน browser หลายๆ ตัว ซับก็ไม่ออก ถึงจะมี app ใน android แต่ก็ซับอังกฤษซะเยอะ
เลยอยากโหลดไฟล์และซับไทยมาดูเอง

จริงๆ แล้วในเว็บ ted.com/talks เองก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอและซับได้

คือ ใต้ Video จะมีปุ่ม download ที่เลือกได้ทั้งซับและคุณภาพของวิดีโอ

แต่ก้ใช่ว่า วิธีนี้จะใช้ได้กับทุกคลิป บางคลิปก็ไม่มีซับ หรือถ้ามีก็ไม่มีภาษาไทย

สรุปแล้ว ถ้าจะดูแบบ offline ก็ต้องดูดซับไทยออกมาให้ได้

ผมทดลองใช้โปรแกรมดาวน์โหลด อย่าง ted grabber หรืออะไรที่คล้ายๆ กัน ส่วนมากจะใช้ไม่ได้หรือแผงไวรัสมาด้วยก็มี

เรื่องการดาวน์โหลดไฟลืวิดีโอไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะใน ted ก็มีให้โหลดหรือจะใช้ IDM เอาก็ได้

ส่วนซับไตเติล ผมแนะนำของที่นี่

http://tedtalksubtitledownload.appspot.com/

เป็นเว็บหน้าตาแปลกๆ เพี้ยนๆ แต่ใช้งานได้ดีมาก

วิธีใช้ก็แค่ copy url ไปใส่ แต่ว่า url ต้องเป้นแบบปกติ เพราะที่ผม copy มาจาก facebook มันจะได้เป็น

http://www.ted.com/talks/lang/th/bono_the_good_news_on_poverty_yes_there_s_good_news.html

ให้ลบ /lang/th ออก ก็จะได้

http://www.ted.com/talks/bono_the_good_news_on_poverty_yes_there_s_good_news.html

แล้วเอา URL นี้ไปใส่ในช่อง กด download รอไม่นาน รายชื่อไฟล์ซับไตเติลก็จะออกมา ให้คลิ๊กไปที่ Thai หรือภาษาอื่นๆ ก็แล้วแต่ โหลดมาก็จะได้เป็นไฟล์ .srt หรือ html ก็เอาไปเปิดได้เหมือนกัน

สำหรับผมใน PC ใช้โปรแกรม POT Player ก็ใช้งานได้ แต่ซับจะออกมาเร็วไปหน่อย ต้องไปตั้งค่า Delay Subtutle เอาเอง

ความแตกต่างของซับที่ได้จาก TED คือ เวลาจะตรงกับวิดีโอ แต่ซับที่โหลดเองจะ Delay ไปเยอะมาก  เรื่อง Font ก็ต่างกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะในโปรแกรมเล่นวิดีโอสามารถไปตั้งค่าได้เอง

Credit :
http://estebanordano.com/ted-talks-subtitles-downloader/

ตั้งแต่ช่วงหลังๆ มาที่ Google เริ่มไล่ปิดบริการไม่ทำเงินหรือคนใช้ไม่เยอะไป ผมเองก้เริ่มเสียวๆ อยุ่ว่า Google Reader จะโดนเมื่อไหร่ เพราะมีข่าวกันว่าคนใช้ RSS Feed น้อยลงมากเพราะไปนั่งเฝ้า Facebook และ Social Media ตัวอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่ผมแน่ เพราะข่าวสารในแต่ละวันจะไปหาอ่านใน Facebook ก็คงจะพอมีอาจจะน้อยกว่าเรื่องไร้สาระ รัก โลภ โกรธ หลงใน Facebook ซะอีก

Google Reader เป็นบริการอ่าน RSS Feed ข่าวจากเว้บต่างๆ ได้แทบจะไม่จำกัด ใช้งานง่าย เร็ว สำหรับผมใช้งานมาก็น่าจะ 3 ปีได้แล้ว ชอบตรงที่การ Subscribe ง่าย การจัดหมวดหมู่ และอื่นๆ จนทุกวันนี้ก็ยังชินกับการใช้งานแบบนี้อยู่

จนถึงเวลา Google Reader ต้องจากไป ผมเองก็ต้องหาของใหม่มาทดแทน ลองทั้งแบบ Web และ Client บน Windows ก็สรุปเอาว่า Feed Demon เป็นโปรแกรมที่ลงตัวที่สุดแล้ว

ตัวโปรแกรม FeedDemon สามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ http://www.feeddemon.com/
ตัวที่แจกฟรีเป้น FeedDemon Lite ใช้งานได้คล้ายๆ กับ Google Reader + Browser

ข้อดี
– มี Browser Tab เอาไว้เปิดดู Feed ที่มีรายละเอียดเยอะๆ

ข้อเสีย
– ตอน Update Feed จะกิน CPU เยอะตามจำนวน Subscription ที่เรามี (ของผมมี 110 Feed)

การติดตั้งไม่ยาก ถัดมาก็เริ่มกันที่ Import Feed จาก Google Reader ก่อน

**ผมลอง Export Google Reader มาแล้ว ได้ไฟล์มาเป็น Pack เลย แถมยัง Import เข้า Feed Demon ตรงๆ  ไม่ได้ ก็เลยต้องใช้วิธนี้เอา

– เข้าไปที่ File >> Inport/Export >> Inport Feeds

– กดเลือก Import From an External Source เลื่อนหา Google Reader

– ใส่ Account ของ Google Reader ลงไป หลังจากขั้นตอนนี้ก็จะเป็นการเลือก Feed ที่จะ Import ก็ให้เลือกตามใจอยาก กด Next ไปเรื่อยๆ จนเสร็จ

– เพื่อความมั่นใจ ให้ Export Feed ทั้งหมดเก็บไว้ด้วย เผื่อจะเอาไปใช้กับโปรแกรมอื่นๆ

File > Import/Export > Export Feeds

– เลือก All หรือจะเลือกเอาเองก็ได้ เลือก Export เป็น OPML กด OK
แล้วก็ Save

สร้าง Blog ที่เกี่ยวกับการใช้งาน ซ่อม แก้ไขปัญหาโน้ตบุ๊ค http://notebook-lookup.blogspot.com/ มาก็เกือบๆ สองปีแล้ว มีคน(หลง)เข้ามาดู ก็หลักพันคนต่อวัน ทำให้ผมมีกำลังใจในการเขียน Blog ต่อเนื่องมาได้นานขนาดนี้

พอผ่านปีใหม่มา ก้มาคิดว่าทุกทีผมเป้นคนถ่ายทอดความรู้ วิธีแก้ไข การลองผิดลองถูกต่างๆ เองทั้งหมด แล้วเขียนเล่าลงไปใน Blog คล้ายๆ กับว่าเป็นการสื่อสารทางเดียว เพราะหลายๆ ครั้ง ก็ไม่ได้ไปตอบ Comment ที่มีมาเลย พอจะหาใครช่วยก็ไม่มี

ก็เลยคิดว่าจะลองทำ Webboard ดูสักตัวเอาไว้ลงข้อมูลบางอย่างที่อยากให้มีคนมาช่วยกันถามตอบ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถนัดนัก แต่ก็อยากลอง

ลองใช้มาหลายตัว สุดท้ายก็มาลงตัวที่ SMF 2 เพราะผมเคยใช้ SMF 1 มาแล้ว ปรับตัวกับหน้าตา Admin นิดหน่อยก็ใช้งานได้

แต่สิ้่งหนึ่งที่ผมลืมไปคือ การเขียน Topic ใน Webboard มันไม่ไ้เหมือนใน Blogger หรือ WordPress เพราะใน CMS มันจะมี WYSIWYG Editor มาให้ และผมก็ใช้ Windows Live Writer เขียนมาตลอด

พอมาเจอ BBCODE ของ Webboard เข้าถึงกับงง ทำให้ Post ได้ช้ามาก

มาถึงเรื่องการทำ RSS Feed ของตัว SMF 2

ผมอยากโชว์ Topic ล่าสุดของ SMF ไปไว้ที่ Blogger

วิธีก็คือใช้ RSS Feed

แต่ว่าใน SMF 2 จะต้องมีการปรับ URL ของ Feed นิดหน่อยเพื่อให้ใช้งานได้

RSS Feed เดิมของ SMF 2 จะเป็น XML ไม่มีการระบุประเภทไว้ว่าเป็น Atom หรือ RSS2

http://know2pro.com/nlforum/index.php?action=.xml;sa=recent;limit=10

ทดลองใน Opera

พอเอาไปใส่ใน Blogger ก็โดนแจ้งว่า invalid feed

หาข้อมูลอยู่สักพัก(มั่วๆ เอา) ก็เจอวิธีแก้คือต้องใส่ type=rss2 หรือ type=atom เข้าไปด้วย

http://know2pro.com/nlforum/index.php?action=.xml;sa=recent;limit=10;type=rss2

ทดลองใน Opera

รายละเอียดการตั้งค่า feed แบบ Advance

• limit = x – display the “x” most recent posts (if number is less than 5, it will display 5. If number is larger than 255, it will display 255).
• board = y – display only the recent posts from board “y”
• boards = x,y,z – display only the recent posts from the specified boards
  c=x or c=x,y,z – display only the recent posts from boards in the specified category/categories

Example: http://riderslk.com/index.php?action=.xml;sa=recent;limit=50;type=rss2

พอเอาไปใส่ใน Blogger ก็จะได้แบบนี้

จริงๆ แล้วก็คือ การ Promote webboard แบบง่ายๆ อีกวิธี ส่วนการทำ SEO จะลองทีหลัง ถ้าว่าง

Credit : http://kathabuzz.com/advanced-rss-settings-smf/